สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บาร์เซโลนา เมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสเปน ประสบปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมืองมานาน และสถานการณ์ได้ดำเนินมาถึงขีดสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ก.ค.) เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงได้ขว้างปาสิ่งของ ใช้ปืนฉีดน้ำ และสาดเครื่องดื่มกระป๋องใส่นักท่องเที่ยว พร้อมตะโกนไล่ว่า "นักท่องเที่ยวกลับบ้านไป"
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งไม่พอใจกับปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมืองที่ยืดเยื้อมานาน ได้นำเทปกั้นเขตแบบที่ตำรวจใช้มาปิดกั้นทางเข้าโรงแรมและร้านกาแฟหลายแห่งในย่านบาร์เซโลเนตา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการปิดสถานที่เหล่านี้
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงราว 3,000 คนได้เดินขบวนไปตามท้องถนน โดยถือป้ายขนาดใหญ่เพื่อเรียกร้องให้ทางการ "ลดจำนวนนักท่องเที่ยวลงเดี๋ยวนี้"
คลิปวิดีโอและภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่า ผู้คนพยายามหลีกเลี่ยงกลุ่มผู้ประท้วง โดยบางคนรีบลุกจากโต๊ะอาหาร แต่บางส่วน ซึ่งรวมถึงพนักงานร้านอาหาร มีการปะทะคารมกับกลุ่มผู้ประท้วง
ทั้งนี้ การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่การท่องเที่ยวฤดูร้อนในบาร์เซโลนาอยู่ในช่วงพีคสุดพอดี โดยข้อมูลของสภาเมืองบาร์เซโลนาระบุว่า ในปี 2566 อัตราการเข้าพักโรงแรมสูงเกือบแตะ 80% ในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. โดยเมืองที่มีประชากรราว 1.6 ล้านคน ต้องรองรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 4 ล้านคน