สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยในวันพุธ (24 ก.ค.) ว่า ปัญหาขโมยของในร้านค้า (shoplifting) ในอังกฤษและเวลส์เพิ่มขึ้น 30% ในรอบปีนับจนถึงเดือนมี.ค. 2567 สู่ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี
ONS ระบุว่า มีรายงานการขโมยของในร้านค้าที่มีการจดบันทึกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่ 443,995 ครั้งในรอบปีดังกล่าว เพิ่มขึ้นจาก 342,428 ครั้งในรอบปีก่อนหน้านั้น ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
สมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร (BRC) ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้อุตสาหกรรมค้าปลีกเสียหายเกือบ 1 พันล้านปอนด์ (1.3 พันล้านดอลลาร์) ต่อปี
บรรดาผู้ค้าปลีกระบุว่า ภาพที่แท้จริงของปัญหาดังกล่าวเลวร้ายยิ่งกว่าตัวเลขที่เห็นมาก เพราะมีการขโมยของในร้านค้าหลายพันครั้งที่ไม่ได้มีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเจ้าของร้านไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการใด ๆ หรือลงโทษผู้กระทำผิดได้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปัญหาการขโมยของในร้านค้าและความรุนแรงต่อพนักงานเป็นปัญหาที่บรรดาผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ รวมถึงเทสโก (Tesco) จอห์น ลูอิส (John Lewis) และไพรมาร์ก (Primark) หยิบยกขึ้นมากล่าวเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของสหรัฐและที่อื่น ๆ