กรุงปารีสของฝรั่งเศสได้กลายเป็นสถานที่เฝ้าระวังสูงสุดระหว่างช่วงการแข่งขันโอลิมปิก เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดการก่อการร้าย แต่สุดท้ายแล้วก็มีผู้ก่อวินาศกรรมพยายามทำลายโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟและอินเทอร์เน็ต โดยตัดสายเคเบิลใยแก้วนำแสง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเริ่มต้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ก.ค.) มีการโจมตีระบบรถไฟความเร็วสูงของฝรั่งเศสซึ่งทำให้สายสัญญาณได้รับความเสียหาย ต่อมาในคืนวันอาทิตย์ (28 ก.ค.) สายเคเบิลที่ใช้สำหรับบริการอินเทอร์เน็ตก็ถูกตัดในหลาย ๆ จุดทั่วฝรั่งเศส
นายเดล บักเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทรักษาความปลอดภัย โกลบอล การ์เดียน (Global Guardian) กล่าวว่า "เนื่องจากพวกเขารักษาความปลอดภัยในกรุงปารีสได้ดีมาก ดังนั้นผู้โจมตีจึงมุ่งเป้าไปที่จุดที่อ่อนแอที่สุดนอกเมืองแทน"
การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานครั้งนี้มีขนาดใหญ่และเป็นระบบมากกว่าปกติมาก ทำให้ทางการประหลาดใจ โดยนายโรแมง โบนฟองต์ ประธานสหพันธ์โทรคมนาคมฝรั่งเศส (French Telecom Federation) กล่าวว่า "การตัดสายเคเบิลใยแก้วนำแสงเกิดขึ้นใน 9 เขตการปกครอง ซึ่งเมื่อพิจารณาในแง่ภูมิศาสตร์แล้วน่าทึ่งมาก"
ฝรั่งเศสมีทางรถไฟยาวประมาณ 35,000 กิโลเมตร และมีเครือข่ายสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตระยะไกลขนาดใหญ่ โดย 120,000 กิโลเมตรเป็นของ SFR เพียงแห่งเดียว ซึ่ง SFR ก็เป็นเป้าหมายหลักที่ถูกโจมตี แม้พนักงานบำรุงรักษาจะทำงานอย่างหนักเพื่อลดการหยุดชะงักให้เหลือน้อยที่สุด แต่ทางการชี้ว่า การปกป้องโครงสร้างพื้นฐานหลักที่มีความยาวหลายพันไมล์นั้นเป็นงานที่ลำบากมาก
นายฌอง-ปิแอร์ ฟารานดู ประธานการรถไฟฝรั่งเศส (SNCF) กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันเสาร์ (27 ก.ค.) ที่สถานีมงต์ปาร์นาส (Gare Montparnasse) ซึ่งเป็นสถานีที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการโจมตีเมื่อวันศุกร์ว่า "เราไม่สามารถเฝ้าติดตามป้องกันสายเคเบิลระยะทางทั้งหมด 35,000 กิโลเมตรได้ทั้งหมด" และยังไม่พบตัวผู้ก่อเหตุอีกด้วย