สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลายประเทศในแอฟริกาตอนกลางกำลังเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฝีดาษลิงที่กลายพันธุ์ ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 500 รายในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า เชื้อไวรัสดังกล่าวคาดว่าจะทำให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 12,300 คนภายในปี 2567 ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งรายงานพบเชื้อไวรัสชนิดนี้เป็นครั้งแรกเมื่อไม่ถึง 1 ปี
การระบาดล่าสุดในไอวอรี่โคสต์ เคนยา และอีกอย่างน้อย 3 ประเทศในแอฟริกา ก่อให้เกิดความกังวลว่าการแพร่ระบาดจะแพร่กระจายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีถนนและทางหลวงสายใหม่ ซึ่งเชื่อมต่อพื้นที่ทำเหมืองที่อยู่ห่างไกลและค่ายพักพิงของชาวคองโกที่พลัดถิ่นหลายแสนคน
โรคฝีดาษลิง หรือเอ็มพอกซ์ เกิดจากไวรัสที่มีชื่อว่า ออร์โธพอกซ์ไวรัส (Orthopoxvirus) ซึ่งเป็นไวรัสในกลุ่มไวรัสไข้ทรพิษ (Smallpox) ที่มีอันตรายถึงชีวิต แม้ไวรัสจะแพร่ระบาดจากสัตว์ฟันแทะและติดต่อสู่คนบ่อยเพิ่มมากขึ้นมานานหลายสิบปี แต่จำนวนผู้ป่วยในปัจจุบันนั้นอยู่ในระดับที่มากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องมาจากไวรัสนั้นผ่านการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ซึ่งนักวิทยาศาสตร์กังวลว่าอาจทำให้ไวรัสชนิดนี้อันตรายยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ แอฟริกาเป็นทวีปเดียวที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง แต่กลับประสบปัญหาในการได้รับวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทบาวาเรียน นอร์ดิก (Bavarian Nordic) และบริษัทเคเอ็ม ไบโอโลจิกส์ (KM Biologics)
ด้านองค์การแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) ระบุผ่านทางอีเมลว่า บาวาเรียน นอร์ดิก ผู้ผลิตวัคซีนจินนีออส ได้ให้คำมั่นว่า จะบริจาควัคซีนให้กับประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกา ส่วนเคเอ็ม ไบโอโลจิกส์ยังไม่ตอบกลับความเห็นใดๆ