ข้อมูลของทางการบราซิลที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (7 ส.ค.) ระบุว่า การตัดไม้ทำลายป่าในป่าแอมะซอนซึ่งเป็นป่าดิบชื้นของบราซิลเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค.เป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือน
พื้นที่ 666 ตารางกิโลเมตรในป่าแอมะซอนได้ถูกทำลายในเดือนก.ค. 2567 เพิ่มขึ้น 33% จาก 500 ตารางกิโลเมตรที่ถูกทำลายในเดือนก.ค. 2566
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวาของบราซิลให้คำมั่นว่าจะยุติการตัดไม้ทำลายป่าอย่างผิดกฎหมายในป่าแอมะซอนให้ได้ภายในปี 2573 ซึ่งสถานการณ์การตัดไม้ทำลายป่าเลวร้ายลงอย่างมากภายใต้การบริหารประเทศของนายชาอีร์ โบลโซนาโร อดีตผู้นำขวาจัดซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนก่อน
รัฐบาลบราซิลเปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้การตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค.ได้แก่ การที่พนักงานของสำนักงานสิ่งแวดล้อม IBAMA หยุดงานประท้วง
นอกจากนี้ การตัดไม้ทำลายป่ายังมีความเชื่อมโยงอย่างมากกับการขยายตัวทางด้านการเกษตร และการทำเหมืองที่ผิดกฎหมาย
ป่าแอมะซอนซึ่งเป็นป่าฝนขนาดใหญ่ที่สุดในโลกครอบคลุมพื้นที่เกือบ 40% ของทวีปอเมริกาใต้ โดยในศตวรรษที่ผ่านมา ป่าแอมะซอนสูญเสียพื้นที่ไปแล้วประมาณ 20% จากการตัดไม้ทำลายป่า อันเนื่องมาจากความก้าวหน้าด้านการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ การทำป่าไม้ การทำเหมือง ตลอดจนการขยายตัวของเมือง
ทั้งนี้ ป่าดิบชื้นอย่างแอมะซอนนั้นช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ป่าดิบชื้นก็ได้รับความเสียหายจากการตัดไม้ทำลายป่ามากที่สุด