ดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index) บ่งชี้ว่า นายโคลิน หวง (Colin Huang) วัย 44 ปี เจ้าของเทมู (Temu) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน ได้ขึ้นแท่นบุคคลรวยที่สุดในจีนแล้ว โดยเบียดแซงหน้านายจง ชานซาน (Zhong Shanshan) ราชาน้ำดื่มบรรจุขวดของจีน หลังได้อานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการชอปปิงของผู้บริโภค
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายหวงประสบความสำเร็จในธุรกิจเกมและอี-คอมเมิร์ซ ก่อนล้มป่วยและตัดสินใจออกมาอยู่ที่บ้านนาน 1 ปี และในปี 2558 เขาได้เริ่มก่อตั้งพินตัวตัว (Pinduoduo) แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซซึ่งเป็นที่รู้จักจากการขายผลิตภัณฑ์ราคาถูกที่มีโปรโมชันมากมาย และหลังจากนั้นนายหวงได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีติดอันดับโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยทรัพย์สินสุทธิสูงสุดที่ 7.15 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2564
อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์ของเขาร่วงลง 87% ภายในเวลาเพียง 1 ปี เช่นเดียวกับมหาเศรษฐีรายอื่น ๆ ที่หาเงินได้อย่างมากในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด โดยสินทรัพย์ของนายหวงร่วงลงอย่างหนักในขณะที่การแพร่ระบาดทั่วโลกของโรคโควิด-19 ชะลอลง และทางการจีนดำเนินมาตรการปราบปรามภาคเอกชนอย่างฉับพลัน แต่ต่อมาบริษัทพีดีดี โฮลดิงส์ (PDD Holdings) ของนายหวงก็ฟื้นตัวขึ้น
แม้การฟื้นตัวดังกล่าวไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนแต่ก่อน แต่ก็มีความมั่นคงจากการขยายธุรกิจออกไปนอกประเทศจีนภายใต้แบรนด์เทมู (Temu) ซึ่งช่วยรับมือกับเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแอได้
นายหวงได้กลายเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในจีนโดยมีมูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 4.86 หมื่นล้านดอลลาร์ แซงหน้านายจง ชานซาน ราชาน้ำดื่มบรรจุขวดที่ครองตำแหน่งนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564
ความรวยที่ทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งของนายหวงได้รับแรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการชอปปิงของจีน หลังจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวในระยะยาว
นอกจากนี้ นายหวงยังเป็นเจ้าพ่อด้านเทคโนโลยีคนแรกที่ครองอันดับความมั่งคั่งมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี นับตั้งแต่การที่รัฐบาลจีนกวาดล้างธุรกิจเอกชนนั้น ส่งผลกระทบต่อบริษัทคู่แข่งต่าง ๆ ของเทมู อาทิ อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) ของนายแจ็ก หม่า (Jack Ma)
นายบร็อค ซิลเวอร์ส กรรมการผู้จัดการบริษัทไค่หยวน แคปิตอล (Kaiyuan Capital) กล่าวว่า "นายหม่าและนายเจฟฟ์ เบซอส เป็นนักธุรกิจชั้นนำในช่วงเวลาของพวกเขา แต่ขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และนายหวงกำลังประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ด้วยแนวทางที่แตกต่าง"
ทั้งนี้ ตัวแทนจาก PDD ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้