เจ้าหน้าที่แคว้นเคิร์สค์ บริเวณชายแดนของรัสเซียเปิดเผยในวันนี้ (11 ส.ค.) ว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 13 รายภายในเมือง หลังเศษซากจากขีปนาวุธยูเครนที่ถูกยิงสกัดไว้ได้ตกใส่อาคารที่อยู่อาศัย 9 ชั้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองกำลังรัสเซียได้สู้รบอย่างดุเดือดติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เพื่อสกัดกั้นการรุกคืบครั้งใหญ่ที่สุดของยูเครน นับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง
นายอเล็กเซย์ สเมอร์นอฟ รักษาการผู้ว่าการแคว้นเคิร์สค์ระบุผ่านเทเลแกรมว่า ผู้บาดเจ็บ 2 รายอยู่ในอาการสาหัส
นายอิกอร์ คุตซัค นายกเทศมนตรีแคว้นเคิร์สค์ระบุว่า ผู้อยู่อาศัยในอาคารหลังดังกล่าวได้รับการอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว และเสริมว่า สัญญาณเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังขึ้นทั่วทั้งเมือง พร้อมโพสต์ภาพอาคารแห่งหนึ่งที่หน้าต่างแตกกระจายและระเบียงและอาคารด้านหน้าที่พังเสียหายเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.)
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ยังไม่สามารถยืนยันรายงานดังกล่าวจากแคว้นเคิร์สค์ได้ ขณะที่ยูเครนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยทั้งทางการยูเครนและรัสเซียต่างปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีพลเรือนในการสู้รบในครั้งนี้ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคนและทำให้ชาวยูเครนหลายล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่าย ๆ