รัฐเท็กซัสของสหรัฐยื่นฟ้องเจเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors หรือ GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ของสหรัฐ โดยกล่าวหาว่า GM ติดตั้งเทคโนโลยีเก็บข้อมูลผู้ขับขี่รถยนต์กว่า 14 ล้านคัน และขายข้อมูลเหล่านั้นให้กับบริษัทประกันภัยและบริษัทอื่น ๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ขับขี่
เคน แพกซ์ตัน อัยการสูงสุดของรัฐเท็กซัสกล่าวว่า การฟ้องร้องในวันอังคาร (13 ส.ค.) มีขึ้น หลังจากที่มีการประกาศเกี่ยวกับการสอบสวนเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาเกี่ยวกับประเด็นที่ว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายรายแอบเก็บและขายข้อมูลจำนวนมากโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ได้รับรู้
อัยการแพกซ์ตันกล่าวว่า ข้อมูลของ GM ถูกใช้เพื่อทำ "คะแนนการขับขี่" (Driving Scores) สำหรับการประเมินว่า ผู้ขับขี่ชาวเท็กซัสกว่า 1.8 ล้านคนมีพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ดี เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด เบรกกระชั้นชิด หักพวงมาลัยแรงเกินไปเมื่อเข้าโค้ง ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยและขับขี่รถยนต์ในเวลาดึกดื่นหรือไม่ จากนั้น บริษัทประกันภัยอาจใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการตัดสินใจว่าจะเพิ่มเบี้ยประกัน ยกเลิกกรมธรรม์ หรือปฏิเสธความคุ้มครอง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลผู้ขับขี่ดังกล่าวนั้นได้ถูกกล่าวหาว่าติดตั้งอยู่ในรถยนต์ส่วนใหญ่ของ GM ตั้งแต่รุ่นปี 2558 เป็นต้นมา
อัยการแพกซ์ตันกล่าวว่า การปฏิบัติของ GM คือ การให้ตัวแทนจำหน่ายทำให้ลูกค้าเชื่อว่า การลงทะเบียนใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการวินิจฉัยออนสตาร์ (OnStar) ของบริษัทนั้น เป็นสิ่งที่จะต้องทำ ซึ่งบริการดังกล่าวจะทำการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน
อัยการแพกซ์ตันระบุในแถลงการณ์ว่า "บริษัทต่าง ๆ กำลังใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเพื่อละเมิดสิทธิของพลเมืองของเราในรูปแบบที่คาดไม่ถึง โดยจากการตรวจสอบของเราบ่งชี้ว่า GM ได้ใช้แนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่ร้ายแรงซึ่งละเมิดความเป็นส่วนตัวของชาวเท็กซัสและฝ่าฝืนกฎหมาย พวกเขาต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้"
ด้าน GM ระบุในแถลงการณ์ทางอีเมลว่า "เราได้หารือกับสำนักงานอัยการสูงสุดและกำลังพิจารณาคำร้องดังกล่าว เราก็มีความต้องการที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคเช่นเดียวกัน"