ญี่ปุ่นเตรียมใช้ระบบใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขับรถย้อนศรบนทางด่วน โดยตั้งเป้าลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้เหลือศูนย์ภายในปี 2572 หลังเกิดอุบัติเหตุจากผู้ขับขี่สูงอายุเพิ่มมากขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ระบบดังกล่าวจะใช้กล้องวงจรปิดเพื่อตรวจจับการขับรถย้อนศร โดยจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวและผู้ขับขี่รถคันอื่นในบริเวณใกล้เคียงผ่านระบบนำทางในรถยนต์หรือสมาร์ตโฟน
รัฐบาลเตรียมเปิดให้บริษัทต่าง ๆ ยื่นประมูลงานเพื่อพัฒนาระบบดังกล่าวภายในปีงบประมาณ 2567 จากนั้นจึงทำการทดสอบนำร่อง ก่อนที่จะนำไปใช้งานในจุดที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงก่อนเป็นอันดับแรก
กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ระบุว่า กล้องวงจรปิดบนทางด่วนถูกใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยและติดตามสภาพการจราจร รวมถึงรถเสียหรือวัตถุที่หล่นบนถนน และเนื่องจากมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดมากกว่า 15,000 ตัวทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ทางด่วนเกือบทั้งหมด ทางกระทรวงฯ จึงเล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะตรวจจับการขับรถย้อนศรโดยใช้การประมวลผลภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)
เมื่อตรวจพบการขับรถย้อนศร ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงเตือนผ่านระบบนำทางในรถยนต์หรือผ่านแอปพลิเคชันแผนที่บนสมาร์ตโฟนที่ผู้ขับขี่ใช้กันทั่วไป นอกจากนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุรถชนประสานงา รถคันอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงจะได้รับการแจ้งเตือนด้วยเช่นกัน
รายงานระบุว่า ผู้ประกอบกิจการทางด่วนจะทำหน้าที่คัดเลือกผู้พัฒนาระบบ จากนั้นทำการทดสอบนำร่องเพื่อประเมินประสิทธิภาพและระบุปัญหาของระบบ โดยระบบจะถูกติดตั้งในจุดที่เกิดอุบัติเหตุขับรถย้อนศรบ่อยครั้งก่อนเป็นอันดับแรก
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2554 มีการขับรถย้อนศรบนทางด่วนประมาณ 200 ครั้งต่อปี และแตะระดับสูงสุดที่ 259 ครั้งในปี 2558
ล่าสุดในปี 2566 มีการขับรถย้อนศรบนทางด่วน 224 ครั้ง โดย 8 ครั้งในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่ราว 80% หรือ 185 ครั้ง สามารถสกัดรถได้ทันก่อนเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ ผู้ขับรถย้อนศรส่วนใหญ่เป็นผู้ขับขี่อายุ 65 ปีขึ้นไป โดยคิดเป็นสัดส่วน 61.5% ของผู้ขับรถย้อนศรทั้งหมดในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 50.4% ในช่วงปี 2554-2565 และคาดว่าแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจำนวนประชากรสูงวัยเพิ่มมากขึ้น