องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (23 ส.ค.) ว่า พันธมิตรของ WHO เช่น องค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน (Global Alliance for Vaccines and Immunization - Gavi) หรือกาวี และกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (United Nations Children's Fund - UNICEF) หรือยูนิเซฟ สามารถเริ่มซื้อวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง (mpox) ได้ แม้ยังไม่ได้รับการอนุมัติจาก WHO ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสุขภาพของสหประชาชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการส่งวัคซีนไปยังแอฟริกาซึ่งกำลังต่อสู้กับการระบาดที่รุนแรงขึ้นของไวรัสโรคฝีดาษลิง
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว องค์กรอย่าง Gavi ซึ่งช่วยประเทศที่มีรายได้น้อยในการจัดซื้อวัคซีน จะสามารถเริ่มซื้อวัคซีนได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจาก WHO เท่านั้น แต่กฎระเบียบดังกล่าวได้รับการผ่อนปรนในกรณีนี้เพื่อให้การเจรจาเริ่มต้นขึ้นได้ เนื่องจาก WHO มีกำหนดจะทำการอนุมัติในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า วัคซีนสองชนิดที่ผลิตโดยบริษัท Bavarian Nordic ของเดนมาร์ก และ KM Biologics ของญี่ปุ่น ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกแล้ว รวมถึงในสหรัฐและญี่ปุ่น และได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายสำหรับโรคฝีดาษลิงมาตั้งแต่ปี 2565 โดยเฉพาะในสหรัฐเพียงแห่งเดียวนั้น มีผู้คนประมาณ 1.2 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนของ Bavarian Nordic โดยคาดว่า WHO จะออกใบอนุญาตฉุกเฉินให้ใช้วัคซีนเหล่านี้ได้ในเดือนก.ย.นี้
โรคฝีดาษลิงเป็นการติดเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายผ่านการสัมผัสใกล้ชิดซึ่งมักมีอาการไม่รุนแรง แต่สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ WHO ประกาศให้โรคนี้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่เชื้อไวรัสชนิดใหม่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและพื้นที่อื่น ๆ
เมื่อต้นเดือนนี้ WHO ได้ขอให้ผู้ผลิตวัคซีนส่งข้อมูลเพื่อเร่งกระบวนการอนุมัติ และคาดว่าจะออกใบอนุญาตสำหรับการใช้วัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉินได้ภายในกลางเดือนก.ย.นี้