รัฐบาลกานาได้ประกาศห้ามส่งออกธัญพืชบางประเภท รวมถึงข้าว ข้าวโพด และถั่วเหลือง เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนอาหารจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นในประเทศ
ไบรอัน อาเชียมปง รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของกานา ได้แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันจันทร์ (26 ส.ค.) ว่า สภาพภัยแล้งและภาวะใกล้แล้งในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาได้เพิ่มความเสี่ยงที่พืชผลจะเสียหายในภูมิภาคที่คิดเป็นประมาณ 62% ของการผลิตธัญพืชของประเทศ โดย 6 ภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบนั้นส่วนใหญ่อยู่ทางตอนเหนือ
นายอาเชียมปงระบุว่า พื้นที่มากถึง 1.8 ล้านเฮกตาร์ตกอยู่ในความเสี่ยง และเกษตรกรที่ปลูกพืชในพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้นก็ได้รับผลกระทบแล้ว พร้อมเสริมว่า "เราคาดการณ์ว่าปริมาณธัญพืชที่มีอยู่จะขาดแคลนอย่างมาก ... หากไม่มีการแทรกแซงใด ๆ แล้วก็อาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลนอาหารทั่วประเทศ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของกานาสอดคล้องกับมาตรการของประเทศอื่น ๆ เช่น ไนจีเรียและไอวอรีโคสต์ ที่จำกัดการส่งออกธัญพืชในปีนี้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และเกิดขึ้นหลังจากที่ตอนใต้ของแอฟริกาต้องเผชิญกับภัยแล้งรุนแรงในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ส่งผลให้พืชผลเสียหาย โดยความแห้งแล้งนี้เกิดจากปรากฏการณ์สภาพอากาศเอลนีโญ
ขณะเดียวกัน โมฮัมเหม็ด อามิน อดัม รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกานา เปิดเผยว่า ทางการกำลังวางแผนระดมทุน 500 ล้านดอลลาร์เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการขาดแคลนธัญพืช ซึ่งรวมถึงประมาณ 155 ล้านดอลลาร์จากธนาคารโลกและพันธมิตรด้านการพัฒนารายอื่น ๆ ด้วย