รัฐต่าง ๆ และเขตพื้นที่การศึกษาหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาต่างเดินหน้าคุมเข้มข้อจำกัดการใช้โทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งสั่งห้ามใช้โทรศัพท์มือถือโดยเด็ดขาด หลังจากมีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นที่บ่งชี้ถึงผลกระทบเชิงลบของการใช้อินเทอร์เน็ตมากเกินไปในหมู่วัยรุ่น
เดอะวอชิงตันโพสต์ (The Washington Post) รายงานในวันอังคาร (27 ส.ค.) ว่า ในลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นเขตพื้นที่การศึกษาที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ทางคณะกรรมการโรงเรียนได้ลงมติห้ามใช้โทรศัพท์มือถือตั้งแต่เดือนมิ.ย. ส่วนในคลาร์กเคาน์ตี รัฐเนวาดา กำหนดให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋าตลอดทั้งวัน เริ่มตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงนี้เป็นต้นไป
นอกจากนั้นอีกหลายรัฐ เช่น อินเดียนา ลุยเซียนา เซาท์แคโรไลนา และฟลอริดา ได้ออกกฎจำกัดการใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงเปิดเทอม ขณะที่ผู้ว่าการรัฐอย่างน้อยอีกสามรัฐ รวมถึงรัฐเวอร์จิเนีย ได้เรียกร้องให้โรงเรียนจำกัดหรือห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ และยังมีรัฐอื่น ๆ ที่จัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนนโยบายจำกัดการใช้โทรศัพท์มือถือ
ในบรรดาเขตพื้นที่การศึกษา 20 แห่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศนั้น มีอย่างน้อย 7 แห่งที่ห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างวัน หรือมีแผนว่าจะใช้มาตรการดังกล่าว และอีกอย่างน้อย 7 แห่งได้บังคับใช้ข้อจำกัดที่สำคัญ เช่น ห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างเวลาเรียน แต่อนุญาตให้ใช้ได้ในช่วงพักเที่ยงหรือระหว่างเปลี่ยนคาบเรียน
"ผู้บริหารโรงเรียนต้องเผชิญแรงกดดันจากครูและผู้ปกครองที่มองว่าโทรศัพท์มือถือรบกวนสมาธิ เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของนักเรียน" รายงานระบุ