ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องเมื่อวันพุธ (11 ก.ย.) ให้มีการสร้างระบบระดับโลก เพื่อติดตามการทำเหมืองและการผลิตแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนผ่านจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีความสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศนั้น ต้องอาศัยแร่ธาตุและโลหะต่าง ๆ เช่น ทองแดง แคดเมียม นิกเกิล และลิเทียม ซึ่งจำเป็นในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ และอื่น ๆ
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ประมาณการว่า ความต้องการแร่ธาตุและโลหะดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 4 เท่าภายในปี 2583 เนื่องจากประเทศต่าง ๆ แข่งขันกันเพื่อไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส
สำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) รายงานว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นตัวแทนจากองค์กรพัฒนาเอกชนและกระทรวงเหมืองแร่และสิ่งแวดล้อมของหลายประเทศนั้น เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการ UN ที่จัดตั้งขึ้นในเดือนเม.ย.โดยอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN เพื่อวางแนวทางป้องกันในช่วงการปฏิวัติพลังงานที่กำลังจะเกิดขึ้น
กูเตอร์เรส กล่าวในวันพุธว่า "เราจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการเรียกร้องจากประเทศกำลังพัฒนา ท่ามกลางสัญญาณที่แสดงว่าการเปลี่ยนผ่านพลังงานอาจทำให้ความไม่เท่าเทียมในอดีตเกิดขึ้นอีกและรุนแรงขึ้น" โดยเขาขอให้คณะกรรมการให้คำแนะนำต่าง ๆ แก่ประเทศสมาชิกของ UN ก่อนการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศ หรือ COP29 ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน ในเดือนพ.ย.
"เราจะรวมระบบของ UN เข้าด้วยกันเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการ โดยมุ่งมั่นที่จะปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน รวมถึงสิทธิของชนพื้นเมือง ตลอดห่วงโซ่คุณค่าแร่ธาตุสำคัญ" กูเตอร์เรสกล่าว