หลายเขตในกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ยังคงจมอยู่ใต้น้ำในวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าระดับน้ำในแม่น้ำแดงจะทรงตัวเช่นนี้ไปอีกอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ขณะที่ภัยน้ำท่วมและดินถล่มยังคงสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของเวียดนาม
ประเทศเวียดนามกำลังเผชิญกับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) พายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มเอเชียในปีนี้ ซึ่งขึ้นฝั่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ก.ย.) หน่วยงานจัดการภัยพิบัติของรัฐบาลระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 197 ราย และสูญหายอีก 128 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บมีมากถึง 800 ราย นับตั้งแต่พายุเข้าถล่ม
"ระดับน้ำท่วมที่สูงได้ไหลท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำ กัดเซาะคันดินกั้นน้ำ และคุกคามบางส่วนของกรุงฮานอยและจังหวัดทางตอนเหนืออื่น ๆ" หน่วยงานฯ ระบุในรายงาน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ ทางการได้อพยพประชาชนหลายพันคนที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำที่เอ่อล้น เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี
"ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยความเศร้าโศก และความกังวลยังคงปกคลุมไปจนถึงค่ำ หลายคนที่แทบจะไม่มีอะไรอยู่แล้วกลับต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง" สกาย มาโคนาชี ซีอีโอร่วมของมูลนิธิเด็กบลูดราก้อน (Blue Dragon Children's Foundation) กล่าว
"การฟื้นฟูจะเป็นเส้นทางที่ยาวไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มีอาชีพ มีรายได้ และมีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและสะอาดอีกครั้ง" มาโคนาชีกล่าว
สถานการณ์ทางตอนเหนือของกรุงฮานอยยังคงน่าเป็นห่วง สื่อของทางการรายงานว่าหลายพื้นที่ยังคงเผชิญกับปัญหาดินถล่มและน้ำท่วมอย่างหนัก
"ผมไม่เคยคิดเลยว่าน้ำจะท่วมบ้านผมสูงขนาดนี้" หว่าง วัน ตี๋ กล่าว ขณะยืนอยู่หน้าบ้านที่ถูกน้ำท่วมในจังหวัดท้ายเงวียน
"เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ทุกอย่างจมอยู่ใต้น้ำหมดเลยครับ ตอนแรกเห็นของลอยไปลอยมาเต็มไปหมด โชคดีที่ผมปิดประตูบ้านไว้ทัน เลยไม่มีอะไรถูกน้ำพัดหายไป"
ทั้งนี้ จังหวัดท้ายเงวียน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตสมาร์ตโฟนที่ใหญ่ที่สุดของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) ในเวียดนาม ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงในบางพื้นที่แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการเร่งฟื้นฟูทำความสะอาด
สำนักข่าวเวียดนามรายงานว่า ในจังหวัดหล่าวกาย เจ้าหน้าที่กำลังเร่งระดมค้นหาผู้สูญหาย 55 คนจากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันซัดถล่มหมู่บ้านนู เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (10 ก.ย.)
รายงานระบุว่า เหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันคร่าชีวิตผู้คนในหมู่บ้านไปถึง 46 ราย และบาดเจ็บอีก 17 ราย ขณะนี้กำลังพลทหาร 300 นาย และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีก 359 ราย กำลังร่วมมือกันค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
หน่วยงานจัดการภัยพิบัติรายงานว่า ดินถล่มและน้ำท่วมได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อภาคการเกษตรทางตอนเหนือของเวียดนาม โดยมีพื้นที่นาข้าวและไร่พืชผลถูกน้ำท่วมกว่า 200,000 เฮกตาร์
ไม่เพียงเท่านั้น ไต้ฝุ่นยางิยังสร้างความเสียหายอย่างหนัก ซัดหลังคาโรงงานปลิวหายหลายแห่งในจังหวัดไฮฟองและกว๋างนิญ ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ส่งผลให้การผลิตต้องหยุดชะงักลง
ขณะนี้ หลายประเทศทั่วโลกต่างยื่นมือเข้าช่วยเหลือเวียดนาม อาทิ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ที่ประกาศส่งความช่วยเหลือไปยังเวียดนามแล้ว