ประชาชนในหลายพื้นที่ของโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็กต้องอพยพหนีน้ำท่วมในวันจันทร์ (16 ก.ย.) ส่วนประชาชนในบางพื้นที่เริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนแล้ว หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษได้ทิ้งร่องรอยความเสียหายและจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่บางพื้นที่ต้องเตรียมรับมือกับน้ำท่วมระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้น
พื้นที่ชายแดนระหว่างสาธารณรัฐเช็กและโปแลนด์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ประกอบกับระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สะพานบางแห่งพังทลาย ประชาชนต้องอพยพออกจากพื้นที่ และเกิดความเสียหายต่อยานพาหนะและบ้านเรือน
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 รายจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นตั้งแต่โรมาเนียไปจนถึงโปแลนด์
ในช่วงบ่ายวันจันทร์ นายกเทศมนตรีเมืองนือซา ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากกว่า 40,000 คนในภาคใต้ของโปแลนด์ ได้ขอให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ทันที หลังจากที่คันกั้นน้ำในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย
ในเมืองโอสตราวาทางตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐเช็ก เขื่อนกั้นน้ำที่พังทลายบริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำออดราและแม่น้ำโอปาวาส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในย่านอุตสาหกรรมของเมือง ซึ่งรวมถึงโรงงานเคมีบอร์ซอดเคม (BorsodChem) โรงงานถ่านหินโอเคเค โคกซอฟนี (OKK Koksovny) และโรงงานอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีการอพยพประชาชนนับร้อยคนออกจากที่อยู่อาศัยอีกด้วย
ในเมืองลิโตเวลของสาธารณรัฐเช็ก ซึ่ง 70% ของพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำลึกถึงหนึ่งเมตรในวันจันทร์ ชาวบ้านได้เล่าถึงความหวาดกลัวเมื่อระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
"ฉันกลัวสุด ๆ เห็นน้ำขึ้นเร็วมากแถวบ้านก็รีบวิ่งหนีเลย" เรนาตา กาโบโรวา วัย 39 ปี กล่าว
รัฐบาลโปแลนด์ได้ประกาศภาวะภัยพิบัติทางธรรมชาติในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และแจ้งว่าได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 1 พันล้านซวอตือ (260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสค์ ของโปแลนด์ กล่าวว่าได้ติดต่อประสานงานกับผู้นำประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ และจะยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรป (EU)
ไซมอน คชิชตัน วัย 16 ปี ซึ่งยืนอยู่ ณ จัตุรัสใจกลางเมืองลอนแด็กซดรุย ได้บรรยายถึงความสูญเสียอันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้ว่าเกินกว่าจะจินตนาการได้ "มันเหมือนเมืองที่เพิ่งผ่านวันสิ้นโลกมา กลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว"
ภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์แสดงให้เห็นถึงเมืองที่เต็มไปด้วยเศษซากและโคลนตม
"วันสิ้นโลกชัด ๆ มันทำลายทุกสิ่งทุกอย่างไปจริง ๆ เพราะเราไม่เหลือสะพานแม้สักแห่ง ในลอนแด็กสะพานหายไปหมดแล้ว พวกเราเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปแล้ว" เยอร์ซี อดัมชิค วัย 70 ปี เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์
อย่างไรก็ดี ที่เมืองเชเซนิก เมืองในสาธารณรัฐเช็กอีกฟากหนึ่งของชายแดน ซึ่งถูกน้ำท่วมเมื่อวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) การทำความสะอาดได้เริ่มขึ้นหลังจากน้ำลดลง เผยให้เห็นรถยนต์ที่เสียหายและเศษซากปรักหักพังเกลื่อนถนน
ชาวบ้านรายหนึ่งในเชเซนิกเล่าว่า "มีน้ำสูงถึงสองเมตรไหลบ่าท่วมถนน รถยนต์จำนวนมากเสียหายย่อยยับ โทรศัพท์ใช้การไม่ได้ ไม่มีน้ำประปา ไฟฟ้าก็ดับ"
ในภาคตะวันออกของโรมาเนีย ซึ่งหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ จมอยู่ใต้น้ำในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เอมิล ดรากอมีร์ นายกเทศมนตรีเมืองสโลโบเซีย โคนาคิ ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของโรมาเนียว่า ชาวบ้านบางคนเหลือทรัพย์สินเพียงแค่เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ในตอนนั้นเท่านั้น
ในขณะที่น้ำกำลังลดระดับลงในบางพื้นที่ หลายแห่งกลับต้องเร่งเสริมความแข็งแกร่งของระบบป้องกันน้ำท่วม เพื่อรับมือกับมวลน้ำที่กำลังไหลบ่าเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองวรอตสวัฟในโปแลนด์ ซึ่งมีประชากรราว 600,000 คน
ในประเทศโรมาเนีย เหตุน้ำท่วมครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 7 รายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงชาวออสเตรียรายหนึ่งก็เสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนในรัฐโลเวอร์ออสเตรีย ซึ่งอยู่รอบ ๆ กรุงเวียนนา โฆษกตำรวจรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า พบศพชายสองคนอายุ 70 และ 80 ปี จมน้ำเสียชีวิตภายในบ้านของตนเอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจโปแลนด์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 4 รายอันเป็นผลมาจากเหตุอุทกภัยในประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐเช็กแถลงว่ามีผู้เสียชีวิตในประเทศ 3 ราย
เมืองหลวงของสโลวาเกียอย่างกรุงบราติสลาวา และเมืองหลวงของฮังการีอย่างกรุงบูดาเปสต์ ต่างเร่งเตรียมรับมือกับภาวะน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำดานูบเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ชานดอร์ ปีนเตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฮังการี กล่าวว่า ทางการกำลังทุ่มเทความพยายามในการควบคุมระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขาไม่ให้ล้นตลิ่ง พร้อมทั้งระบุว่ามีกำลังทหารราว 12,000 นายพร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือหากจำเป็น
ในออสเตรีย ระดับน้ำในแม่น้ำและอ่างเก็บน้ำลดลงในช่วงกลางคืนเนื่องจากฝนซาลง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กล่าวว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์รอบที่สอง เนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักขึ้น