สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ระงับแผนการยื่นเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในฮ่องกงของผู้ผลิตชานมไข่มุกจีนอย่างน้อย 3 ราย เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ไม่ค่อยดีของบริษัทชานมไข่มุกรายอื่น ๆ ที่เสนอขายหุ้น IPO ในฮ่องกงก่อนหน้านี้ รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศที่อ่อนแอ
ฝ่ายกำกับดูแลมีความกังวลเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้น IPO ของผู้ผลิตชานมไข่มุก เพราะชานมไข่มุกที่ขายกันนั้นไม่ได้มีจุดเด่นแตกต่างกันมาก ทั้งยังแข่งขันกันอย่างดุเดือด ขณะที่ผู้บริโภคเริ่มรัดเข็มขัดท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
แหล่งข่าวระบุว่า มี่เสวี่ย ปิงเฉิง (Mixue Bingcheng), กูหมิง โฮลดิงส์ (Guming Holdings) และอานที เจนนี (Auntea Jenny) เป็นบริษัทที่แผนการเสนอขายหุ้น IPO นอกจีนแผ่นดินใหญ่ถูก CSRC เลื่อนออกไปในปีนี้
มี่เสวี่ย ซึ่งมีร้านค้าประมาณ 36,000 แห่ง หวังระดมทุนสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ในการเสนอขาย IPO ในฮ่องกง ซึ่งจะเป็นการเสนอขายหุ้นครั้งใหญ่ที่สุดของฮ่องกงในรอบอย่างน้อย 1 ปี
ส่วนกูหมิง ซึ่งมีร้านค้า 9,000 สาขา ตั้งเป้าระดมทุนถึง 500 ล้านดอลลาร์ผ่านการจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง อย่างไรก็ตาม การยื่นขอ IPO ของทั้ง 2 บริษัทได้หมดอายุไปเมื่อต้นปีนี้ หลังจากรอการอนุมัติมานานกว่า 6 เดือน
ตามกฎระเบียบที่ CSRC ประกาศเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว เพื่อเพิ่มการกำกับดูแลการจดทะเบียนนอกแผ่นดินใหญ่ บริษัทจีนที่ต้องการจดทะเบียนในฮ่องกงหรือนิวยอร์กจะต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในจีนก่อน
แหล่งข่าวระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวที่ทำให้แผนการเสนอขายหุ้น IPO ของผู้ผลิตชานมไข่มุกถูกชะลอนั้น เป็นผลมาจากการที่ราคาหุ้นบริษัทเสฉวน ไป่ฉา ไป่เต้า อินดัสเทรียล (Sichuan Baicha Baidao Industrial) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ฉาไป่เต้า" ร่วงลงเกือบ 27% ในการซื้อขายวันแรกที่ตลาดหุ้นฮ่องกง
ราคาหุ้นของฉาไป่เต้า ซึ่งระดมทุนได้ 330 ล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ลดลง 70% จากราคา IPO ที่บริษัทเสนอขายในราคาหุ้นละ 17.50 ดอลลาร์ฮ่องกง