พลโทเฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กล่าวว่า อิสราเอลจะยังคงโจมตีทางอากาศในเลบานอนต่อไปเพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และเพื่อปูทางสำหรับการใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดิน
"พวกคุณได้ยินเสียงเครื่องบินรบเหนือศีรษะ ขณะที่เราทำการโจมตีตลอดทั้งวัน สิ่งนี้เป็นการเตรียมพร้อมให้พวกคุณบุกภาคพื้นดิน และลดศักยภาพของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์" พลโทฮาเลวีกล่าวต่อทหารอิสราเอลซึ่งอยู่ตามแนวชายแดนเลบานอน
นอกจากนี้ IDF เปิดเผยว่า ทางกองทัพได้ระดมกำลังทหารกองหนุนภาคพื้นดินจำนวน 2 กองพลเข้าประชิดชายแดนเลบานอน
IDF ระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังจากมีการประเมินสถานการณ์ และกำลังพลดังกล่าวจะประจำการทางตอนเหนือของอิสราเอล
แถลงการณ์ระบุว่า การระดมกำลังพลดังกล่าวจะช่วยหนุนการสู้รบกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และการปกป้องอิสราเอล รวมทั้งสร้างสถานการณ์ที่ปลอดภัยสำหรับชาวอิสราเอลในการกลับสู่บ้านเรือนทางเหนือของประเทศ
นอกจากนี้ การเสริมกำลังพลประชิดชายแดนเลบานอนมีขึ้น หลังจากที่พลตรีโอริ กอร์ดิน ผู้บัญชาการทหารทางตอนเหนือของอิสราเอล กล่าวเตือนในวันนี้ว่า กองทัพอิสราเอลอาจยกระดับการโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนโดยใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดิน
"เราได้เข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการสู้รบ โดยเราต้องเตรียมพร้อมอย่างสมบูรณ์สำหรับการใช้ปฏิบัติการทางทหารในเลบานอน" พลตรีกอร์ดินกล่าว และเสริมว่า การโจมตีที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อศักยภาพในการสู้รบของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โดยพุ่งเป้าไปยังคลังอาวุธและผู้บัญชาการทหารของฮิซบอลเลาะห์
พลตรีกอร์ดินกล่าวว่า อิสราเอลจะยกระดับการโจมตี แต่ไม่มีการเปิดเผยกรอบเวลาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ อิสราเอลยังคงส่งเครื่องบินรบโจมตีทางใต้และทางตะวันออกของเลบานอนติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เพื่อทำลายฐานที่มั่นและคลังเก็บอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
อิสราเอลได้ทำการโจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนอย่างหนักในวันจันทร์และอังคาร ซึ่งเป็นการโจมตีครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 550 ราย และบาดเจ็บราว 1,800 ราย