สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สนามบินมิยาซากิทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นได้ปิดให้บริการชั่วคราวในวันนี้ (2 ต.ค.) และมีการยกเลิกเที่ยวบินถึง 87 เที่ยว หลังมีรายงานว่าระเบิดจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดขึ้นใกล้กับรันเวย์
เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นรายงานว่า การระเบิดครั้งนี้ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่บนทางขับ (taxiway) ซึ่งอยู่ติดกับรันเวย์ โดยหลุมมีขนาดกว้าง 7 เมตร ลึก 1 เมตร
ทีมเก็บกู้ระเบิดจากกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินของญี่ปุ่นได้ตรวจสอบและพบว่าสาเหตุเกิดจากระเบิดของสหรัฐฯ ที่ฝังอยู่ใต้พื้นดิน ซึ่งน่าจะมาจากการทิ้งระเบิดทางอากาศในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อยับยั้งการโจมตีแบบ "คามิกาเซะ" ของญี่ปุ่น
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น MRT รายงานว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าเครื่องบินลำหนึ่งเพิ่งขับผ่านบริเวณดังกล่าวไปเพียง 2 นาทีก่อนเกิดเหตุระเบิด
โยชิมาสะ ฮายาชิ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น ออกมาสร้างความมั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระเบิดซ้ำอีก และคาดว่าจะสามารถซ่อมแซมความเสียหายด้วยการถมหลุมให้แล้วเสร็จภายในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ (3 ต.ค.)
ทั้งนี้ เที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบประกอบด้วยเที่ยวบินของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAL), ออลนิปปอนแอร์เวย์ส (ANA) และสายการบินอื่น ๆ ที่ให้บริการเส้นทางระหว่างมิยาซากิกับเมืองต่าง ๆ อาทิ โตเกียว โอซากา และฟุกุโอกะ
ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของเมืองมิยาซากิ สนามบินแห่งนี้เคยเป็นฐานทัพเรือของญี่ปุ่นจนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นจุดปล่อยตัวนักบินหนุ่มหลายร้อยคนที่ออกไปปฏิบัติภารกิจพลีชีพ "คามิกาเซะ" เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต
ที่ผ่านมา มีการค้นพบระเบิดที่ยังไม่ระเบิดหลายลูกในบริเวณสนามบินมิยาซากิ ตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคม
แม้จะผ่านมากว่า 79 ปีนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง แต่ญี่ปุ่นยังคงพบระเบิดที่ยังไม่ระเบิดจากสมัยสงครามอยู่เสมอ โดยในปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นได้ทำการเก็บกู้ระเบิดเหล่านี้ไปแล้วถึง 2,348 ลูก คิดเป็นน้ำหนักรวมกัน 37.5 ตัน