รัฐบาลอิตาลีประกาศเมื่อวันพุธ (2 ต.ค.) ว่าจะเสนอจำนวนวีซ่าทำงานสำหรับผู้อพยพที่ดูแลผู้สูงอายุและคนพิการเพิ่มเติมอีก 10,000 รายในปีหน้า พร้อมกับการประกาศกฎระเบียบการย้ายถิ่นฐานชุดใหม่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อิตาลีประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานให้การดูแล (caregiver) ท่ามกลางสังคมสูงวัยและอัตราการเกิดที่ลดลง บรรดาองค์กรการกุศลจึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดรับพนักงานให้การดูแลจากต่างประเทศมากขึ้น
โควตาวีซ่าเพิ่มเติมสำหรับพนักงานให้การผู้ดูแลนี้จะถูกรวมกับจำนวนวีซ่าทำงาน 452,000 รายที่ได้ประกาศไว้สำหรับช่วงปี 2566-2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 150% เมื่อเทียบกับจำนวนวีซ่าในช่วงสามปีก่อนหน้านี้
รัฐบาลฝ่ายขวาของนายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย แต่ขณะเดียวกันก็ขยายช่องทางการย้ายถิ่นฐานอย่างถูกกฎหมายเพื่อตอบสนองต่อปัญหาขาดแคลนแรงงานที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กฎระเบียบนี้ยังรวมถึงมาตรการปราบปรามเพิ่มเติมต่อองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ที่ช่วยเหลือทางทะเล โดยกำหนดให้เครื่องบินที่องค์กรการกุศลใช้ในการค้นหาเรือผู้อพยพที่ประสบภัยต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของผู้อพยพทันที มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับบทลงโทษ
อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้คล้ายคลึงกับที่บังคับใช้กับเรือของ NGO ที่ต้องเสียค่าปรับและถูกกักที่ท่าเรือ หากเจ้าหน้าที่อิตาลีเห็นว่าการปฏิบัติการช่วยเหลือของพวกเขาไม่ได้รับการประสานงานอย่างถูกต้องกับหน่วยยามฝั่ง
นอกจากนี้ กฎระเบียบใหม่ยังรวมถึงมาตรการป้องกันการฉ้อโกงที่เข้มงวดขึ้นในระบบวีซ่าผู้อพยพ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเมโลนีกล่าวหาว่าระบบดังกล่าวถูกกลุ่มอาชญากร รวมถึงแก๊งมาเฟีย แทรกซึมและใช้ประโยชน์