องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicines Agency - EMA) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) ว่า กำลังตรวจสอบยาต้านผมร่วง ซึ่งรวมถึงยาโพรพีเซีย (Propecia) ของบริษัทออร์กานอน (Organon) และยาสามัญที่มีตัวยาสำคัญเป็นชนิดเดียวกัน เนื่องจากพบความเสี่ยงที่ผู้ใช้ยาจะมีความคิดฆ่าตัวตาย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทาง EMA ระบุว่า จะให้คำแนะนำว่าควรถอน ระงับ หรือคงการอนุญาตจำหน่ายยาดังกล่าวในภูมิภาคยุโรปต่อไปหรือไม่ หลังจากที่การตรวจสอบเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ยารับประทานสำหรับการรักษาศีรษะล้านที่เรียกว่า ฟินาสเทอไรด์ (Finasteride) และดูทาสเทอร์ไรด์ (Dutasteride) นั้นมีความเสี่ยงที่เป็นที่ทราบกันดีเกี่ยวกับผลข้างเคียงทางจิตเวช
การใช้ยาฟินาสเทอไรด์ที่มีชื่อทางการค้าว่าโพรพีเซียนั้น มีคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเกิดความคิดฆ่าตัวตาย
มูลนิธิ Post-Finasteride Syndrome ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนผู้ป่วยเคยยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ ในปี 2560 เพื่อขอให้บริษัทเมอร์ค (Merck) หยุดการจำหน่ายยานี้ หรือเพิ่มคำเตือนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยอ้างถึงการศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์หลายฉบับ
หลายปีต่อมาในปี 2565 FDA ได้ปฏิเสธคำขอให้ถอนยาโพรพีเซียออกจากตลาด และสั่งให้เพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับความคิดและพฤติกรรมการฆ่าตัวตายบนฉลากยานี้
ยาต้านผมร่วงดังกล่าวจำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์โพรพีเซียจากบริษัทออร์กานอนของสหรัฐ และ อาโวดาร์ต (Avodart) จากแกล็กโซสมิทไคล์น (GSK) บริษัทผลิตยาสัญชาติอังกฤษ แต่ก็มีเวอร์ชันที่เป็นยาสามัญจำหน่ายในตลาดด้วย
ออร์กานอนซึ่งแยกตัวออกจากบริษัทเมอร์คในปี 2564 ระบุว่า ทางบริษัทจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ EMA และระบุเสริมว่า บริษัทยังคงยืนยันในความปลอดภัยและประสิทธิผลของยาที่มีส่วนประกอบของยาฟินาสเทอไรด์
ส่วน GSK ยังไม่ได้ตอบกลับการขอความคิดเห็นจากสำนักข่าวรอยเตอร์