ผลสำรวจจากมิลิเยอ อินไซต์ (Milieu Insight) บริษัทวิจัยตลาด ระบุว่า มากกว่า 90% ของนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า การแพร่หลายของปืนในสหรัฐฯ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเดินทางไปยังสหรัฐฯ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ผลสำรวจดังกล่าวได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 6,000 คนจาก 6 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทย ระหว่างวันที่ 9-18 ก.ย. โดยเป็นการสำรวจที่จัดทำขึ้นหลังเกิดเหตุพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ครั้งแรกในเดือนก.ค. และตรงกับเหตุลอบสังหารครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 ก.ย.
ผลสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าฮาวายเป็นรัฐที่ปลอดภัยที่สุดในแง่ของความรุนแรงจากอาวุธปืน ขณะที่เท็กซัสถูกมองว่าปลอดภัยน้อยที่สุด จากรายชื่อ 8 รัฐที่รวมถึงนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา เนวาดา แอริโซนา และวอชิงตัน ดี.ซี.
อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถาม 56% ระบุว่ามีแนวโน้มที่จะเดินทางไปสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และเพิ่มขึ้นเป็น 59% ในกลุ่มผู้ที่เคยไปเยือนสหรัฐฯ อย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนหน้านี้ แม้ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มนี้ 74% กล่าวว่าพวกเขามองว่าปัญหาความรุนแรงจากปืนในสหรัฐฯ ในปัจจุบันรุนแรงขึ้นกว่าในอดีต
เกือบ 80% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า โอกาสที่พวกเขาจะเข้าร่วมงานชุมนุมขนาดใหญ่ เช่น คอนเสิร์ตหรืองานเทศกาลดนตรี จะได้รับผลกระทบอย่างมากหรือในระดับหนึ่งจากจำนวนปืนในสหรัฐฯ
ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงจากปืนในสหรัฐฯ ในระดับสูง ยังแสดงความสนใจที่จะเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในระดับสูงด้วยเช่นกัน
ผู้ตอบแบบสอบถามจากเวียดนาม 79% อินโดนีเซีย 76% และฟิลิปปินส์ 76% ระบุว่าการเดินทางของพวกเขาได้รับผลกระทบอย่างมากหรือในระดับหนึ่งจากการแพร่หลายของปืนในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามจากเวียดนาม 73% จากอินโดนีเซีย 70% และจากฟิลิปปินส์ 69% กล่าวว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะเดินทางไปสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม มีเพียง 24% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวสิงคโปร์ที่กล่าวว่ามีแนวโน้มที่จะเดินทางไปสหรัฐฯ ในเร็ว ๆ นี้