โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) ว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจากเม็กซิโกสูงถึง 200% ซึ่งนับเป็นการเพิ่มความเข้มข้นในการชูนโยบายกีดกันทางการค้า ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย.นี้
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยให้คำมั่นว่าหากได้รับเลือกตั้งอีกสมัย เขาจะเรียกเก็บภาษีรถยนต์และรถบรรทุกนำเข้าในอัตรา 100% เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ แต่ทรัมป์กลับเพิ่มตัวเลขดังกล่าวเป็นสองเท่าในระหว่างการกล่าวปราศรัยที่สนามบินในเมืองจูโน รัฐวิสคอนซิน
"เราจะเรียกเก็บภาษี 200% หากจำเป็น" ทรัมป์ระบุ "เราจะไม่ปล่อยให้รถเหล่านั้นเข้ามาในสหรัฐฯ เราจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ลงพื้นที่หาเสียงในรัฐวิสคอนซินเป็นครั้งที่ 4 ภายในระยะเวลา 8 วัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทีมหาเสียงของเขาให้ความสำคัญอย่างมากกับรัฐนี้ ขณะที่เหลือเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนถึงวันเลือกตั้ง
ถ้อยแถลงของทรัมป์เกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีมีขึ้นในขณะที่ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯ ทว่าผู้เชี่ยวชาญระบุว่าแผนการของเขาอาจทำให้ราคารถยนต์สูงขึ้น
ทั้งนี้ เม็กซิโกส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ราว 3 ล้านคันในปี 2566 โดยครึ่งหนึ่งในจำนวนนี้เป็นของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) ฟอร์ด (Ford) และสเตลแลนทิส (Stellantis)