สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้ออกโรงวิจารณ์แพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับโลก เช่น Netflix, Apple TV+ และ Disney+ ว่าจัดระดับความเหมาะสมของเนื้อหารายการหละหลวม ซึ่งถือเป็นการละเมิดบทบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมภาพยนตร์และผลิตภัณฑ์วิดีโอ
ตามข้อมูลของคณะกรรมการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อเกาหลี (Korea Media Rating Board) ที่สส.โช กเย-วอน จากพรรคประชาธิปไตยเกาหลี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก นำมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) พบว่า Netflix ไม่เคร่งครัดในการจัดเรตคอนเทนต์ที่มีเนื้อหายั่วยุ ส่งผลให้มีการละเมิดบทบัญญัติที่กล่าวถึงข้างต้นรวม 76 กรณี ตามมาด้วยยักษ์ใหญ่สตรีมมิงของสหรัฐฯ อีกสองรายอย่าง Apple TV+ (33 กรณี) และ Disney+ (23 กรณี)
แพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับโลกคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 87% ของการละเมิดทั้งหมด 152 กรณี ขณะที่แพลตฟอร์มสตรีมมิงสัญชาติเกาหลีก็ละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ได้แก่ Wavve (7 กรณี), Tving (5 กรณี) และ Coupang Play (3 กรณี)
หนังสือพิมพ์เดอะ โคเรีย เฮอรัลด์ รายงานว่า มีคอนเทนต์ออนไลน์เผยแพร่บนแพลตฟอร์มสตรีมมิงเป็นจำนวนมากนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การประเมินเรตติงเป็นไปอย่างล่าช้า ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้จึงได้มอบสิทธิ์ในการกำกับดูแลตนเองและจัดเรตภาพยนตร์หรือรายการทีวีด้วยตนเองแก่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเหล่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว รัฐบาลเกาหลีใต้อนุญาตให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิงใช้ระบบจัดเรตคอนเทนต์ของตนเองได้ อย่างไรก็ดี กฎหมายเปิดช่องให้คณะกรรมการฯ สามารถตรวจสอบเป็นระยะ ๆ และเข้าแทรกแซงได้หากพบคอนเทนต์ที่มีเนื้อหารุนแรงหรือลามกอนาจาร แต่ถูกจัดเรตไม่สอดคล้องกับลักษณะของเนื้อหา
รายงานระบุว่า เนื่องจากการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ เป็นการสุ่มตัวอย่าง จึงมีคอนเทนต์เพียง 60% เท่านั้นที่ถูกตรวจสอบ
ข้อมูลของรัฐบาลเผยว่า ก่อนที่จะมีการนำระบบจัดเรตด้วยตนเองมาใช้นั้น จำนวนภาพยนตร์หรือรายการทีวีเรต G ซึ่งเหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัย มีสัดส่วนคิดเป็น 21.2% ของคอนเทนต์ทั้งหมดที่มีการจัดเรต ขณะที่คอนเทนต์เรต R ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี มีสัดส่วนอยู่ที่ 24.5%
หลังจากรัฐบาลอนุญาตให้นำระบบดังกล่าวมาใช้ พบว่าคอนเทนต์เรต G พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 40.8% ขณะที่คอนเทนต์เรต R ลดลงแตะ 14.2% ซึ่งบ่งชี้ว่าแพลตฟอร์มสตรีมมิงใช้มาตรฐานที่หละหลวมหรือไม่เข้มงวดในการจัดเรตคอนเทนต์ของตนเอง