สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่อาจขยายวงกว้างในภูมิภาคตะวันออกกลางส่งผลให้สายการบินระหว่างประเทศหลายแห่งระงับเที่ยวบินไปยังภูมิภาคดังกล่าว หรือหลีกเลี่ยงน่านฟ้าที่ได้รับผลกระทบ
สายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม (Air France-KLM) ขยายเวลาระงับเที่ยวบินจากปารีสไปยังกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอลจนถึงวันที่ 15 ต.ค. และเที่ยวบินไปยังกรุงเบรุตของเลบานอนจนถึงวันที่ 26 ต.ค.
สายการบินแอร์อินเดีย (Air India) ระงับเที่ยวบินขาเข้า-ออกกรุงเทลอาวีฟจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม
สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific Airways) ของฮ่องกง ยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดไปกรุงเทลอาวีฟจนถึงวันที่ 27 มี.ค. 2568
สายการบินเดลตาแอร์ไลน์ (Delta Airlines) ของสหรัฐฯ ระงับเที่ยวบินระหว่างนิวยอร์กกับกรุงเทลอาวีฟจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.
อีซี่เจ็ต (EasyJet) สายการบินราคาประหยัดของอังกฤษ หยุดให้บริการเที่ยวบินไปและกลับจากกรุงเทลอาวีฟเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และจะกลับมาให้บริการเที่ยวบินอีกครั้งในวันที่ 30 มี.ค. 2568
สายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ยกเลิกเที่ยวบินไปเบรุตจนถึงวันที่ 15 ต.ค. ขณะที่เพิ่งกลับมาให้บริการเที่ยวบินไปยังกรุงอัมมานของจอร์แดนตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา และไปยังอิรักและอิหร่านตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.
สายการบินฟลายดูไบ (Flydubai) ระงับเที่ยวบินระหว่างดูไบกับเบรุตจนถึงวันที่ 31 ต.ค.
สายการบินลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa) ของเยอรมนี ระงับเที่ยวบินไปยังกรุงเทลอาวีฟจนถึงวันที่ 31 ต.ค. และเที่ยวบินไปอิหร่านจนถึงวันที่ 26 ต.ค. ส่วนเที่ยวบินไปกรุงเบรุตถูกระงับจนถึงวันที่ 30 พ.ย.
สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ (Qatar Airways) ระงับเที่ยวบินไปและกลับจากอิรัก อิหร่าน และเลบานอนเป็นการชั่วคราว