พายุเฮอร์ริเคนมิลตันเคลื่อนตัวออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติกแล้วในวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) หลังพัดถล่มใจกลางรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ พร้อมก่อให้เกิดพายุทอร์นาโดอีกหลายลูก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย และประชากรหลายล้านไม่มีไฟฟ้าใช้ อย่างไรก็ตาม เฮอร์ริเคนมิลตันไม่ได้ก่อให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งที่รุนแรงในระดับหายนะอย่างที่หลายฝ่ายกังวลก่อนหน้านี้
รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา กล่าวว่า รัฐฟลอริดาหลีกเลี่ยง "สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดมาได้แล้ว" แม้เขาจะตระหนักดีว่า ความเสียหายยังคงรุนแรง และยังมีความน่ากังวลเกี่ยวกับน้ำท่วม
อเลฮานโดร มายอร์คัส รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ กล่าวว่า ทำเนียบขาวได้รับรายงานแล้วว่ามีผู้เสียชีวิต 10 รายจนถึงตอนนี้ ซึ่งดูเหมือนสาเหตุของการเสียชีวิตจะมาจากพายุทอร์นาโด และเสริมว่ามีพายุหมุนก่อตัวขึ้นอย่างน้อย 27 ลูกในรัฐฟลอริดา
อีริก จิลล์ โฆษกประจำเขตเซนต์ลูซีกล่าวว่า พายุทอร์นาโดหลายลูกในเขตเซนต์ลูซี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออกของรัฐฟลอริดา คร่าชีวิตผู้คนไป 5 ราย ซึ่งรวมถึงอย่างน้อย 2 รายในเขตชุมชนผู้สูงอายุในสแปนิชเลกส์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รายงานของ PowerOutage.us ระบุว่า บ้านเรือนและสถานประกอบการมากกว่า 3.2 ล้านแห่งในรัฐฟลอริดาไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี และบางแห่งไฟดับมาแล้วหลายวันหลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนเฮลีนพัดถล่มพื้นที่ดังกล่าวไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน
ดีแอนน์ คริสเวลล์ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า ความเสียหายร้ายแรงส่วนใหญ่ที่มีรายงานเข้ามาจนถึงตอนนี้มีสาเหตุมาจากพายุทอร์นาโด
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเลื่อนการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อติดตามสถานการณ์พายุมิลตัน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาเชื่อว่ารัฐสภาของสหรัฐฯ ควรกลับมาเปิดประชุมเพื่ออภิปรายเกี่ยวกับงบประมาณด้านการบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติหลังสถานการณ์พายุสงบลง