สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไทย และสิงคโปร์ ยังอาจต้องเผชิญกับฝนที่ตกหนักกว่าปกติในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร ท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมในภูมิภาคที่เพิ่งโดนพายุถล่มหนักไปหลายลูกแล้วในปีนี้
พยากรณ์อากาศคาดว่าฟิลิปปินส์ไปจนถึงเวียดนามจะมีฝนตกชุกไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน อันเป็นผลจากปรากฏการณ์ลานีญา ซึ่งทำให้น้ำอุ่นเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกและทำให้ภูมิภาคนี้มีฝนตกมากขึ้น
หากฝนตกหนักแล้วเวียดนามก็อาจฟื้นฟูได้ล่าช้าออกไปอีก หลังจากที่เพิ่งโดนไต้ฝุ่นยางิถล่มหนักในเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีของเวียดนาม
ส่วนประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างไทยก็ต้องแบกรับความเสียหายจากน้ำท่วมภาคเหนือ รวมถึงเชียงใหม่ ขณะที่ฟิลิปปินส์ซึ่งเจอพายุปีละ 9 ลูกโดยเฉลี่ย ก็ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากพายุร้ายแรงหลายลูกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ศูนย์เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาแห่งอาเซียน ระบุว่า "คาดว่าจะเกิดปรากฏการณ์ลานีญาตั้งแต่ตุลาคม-พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้มีโอกาสฝนตกมากกว่าปกติ" ในหลาย ๆ ประเทศแถบนี้
ด้านสิงคโปร์ก็เพิ่งออกประกาศเตือนภัยน้ำท่วมเมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากลมระหว่างมรสุมทำให้ฝนตกหนักมากเป็นอันดับต้น ๆ ในรอบกว่า 40 ปี ส่วนกรมอุตุฯ ฟิลิปปินส์คาดว่าหลายพื้นที่จะเจอฝนมากกว่าปกติจนถึงสิ้นปี และอาจสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 160% ในเดือนมกราคม
กรมอุตุฯ เวียดนามคาดว่าจะมีฝนตกมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในภาคเหนือซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมและการส่งออกสำคัญ ส่วนภาคกลางซึ่งก็เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอีกแห่ง อาจเจอน้ำท่วมถึง 5 ครั้งไปจนถึงเดือนมีนาคม นอกจากนี้ เวียดนามอาจเจอพายุเขตร้อนมากกว่าปกติไปจนถึงเมษายนด้วย