เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ต้อนรับสื่อมวลชนและตัวแทนกว่า 500 คนจากสื่อกระแสหลัก หน่วยงานรัฐบาล และองค์กรระหว่างประเทศ 208 แห่งใน 106 ประเทศ ที่เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมเวิลด์ มีเดีย ซัมมิต (World Media Summit - WMS) ครั้งที่ 6 ซึ่งเปิดฉากเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ณ เมืองอุรุมชี
เออร์กิน ตูนิยาซ ประธานเขตปกครองซินเจียง กล่าวในพิธีเปิดการประชุมว่า ซินเจียงเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับการลงทุน และจะเดินหน้าเปิดประตูสู่โลกภายนอกให้กว้างขึ้นต่อไป พร้อมกันนั้น เขายังได้นำเสนอความสำเร็จด้านการพัฒนาล่าสุดของซินเจียงในหลายภาคส่วน
- ศูนย์กลางการค้าและการลงทุน เชื่อมโยงเอเชียกับยุโรป
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม (Silk Road Economic Belt) ซินเจียงจึงมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะศูนย์กลางเชื่อมโยงเอเชียกับยุโรป อีกทั้งยังเป็นหน้าด่านที่สำคัญสำหรับการเปิดประเทศทางชายแดนตะวันตกของจีน
ในครึ่งแรกของปี 2567 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของซินเจียง เติบโตขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะที่ระดับ 9.2114 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มเติบโตขึ้น 7.2% ในขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น 4% ด้านปริมาณการนำเข้าและส่งออกเพิ่มขึ้น 30.9% เป็น 2.8532 แสนล้านหยวน
กัวะ ชูซ่ง เจ้าหน้าที่คณะกรรมการบริหารเขตคลังสินค้าทัณฑ์บนในคัชการ์ คาดว่า ปริมาณการค้าต่างประเทศของซินเจียงในปีนี้จะสูงถึง 1 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และอาจแตะ 1 ล้านล้านหยวนในอนาคต
ทั้งนี้ เขตการค้าเสรีนำร่องซินเจียงที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 2566 และครอบคลุม 3 พื้นที่สำคัญ ได้แก่ อุรุมชี คัชการ์ และโฮร์กอส ถือเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการพัฒนาการค้าต่างประเทศของซินเจียง
เรื่องนี้ได้รับการยืนยันโดยเซริก คอร์จึมบาเยฟ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์เดโลวอย คาซัคสถาน ซึ่งเน้นย้ำถึงบทบาทของเขตการค้าเสรีนำร่องซินเจียงว่า "มีบริษัทจากคาซัคสถานเข้ามาลงทุนในซินเจียงมากขึ้นเรื่อย ๆ บางบริษัทมาจากภาคยานยนต์พลังงานใหม่ เนื่องจากปัจจุบันรถยนต์พลังงานใหม่ของจีนได้รับความนิยมอย่างมากในคาซัคสถาน"
- จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำ
นอกจากการค้าและการลงทุนแล้ว การท่องเที่ยวในซินเจียงก็เติบโตขึ้นอย่างมากเช่นกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่ง ตั้งแต่ภูเขาสูงตระหง่านและหุบเขาลึกไปจนถึงทะเลทรายอันกว้างใหญ่และทะเลสาบอันเงียบสงบ ตลอดจนวัฒนธรรมชาติพันธุ์ที่หลากหลาย ผสมผสานกับความพยายามอย่างไม่ลดละของทางการซินเจียงที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดใจและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผ่านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว
ข้อมูลเผยว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายนปีนี้ ซินเจียงมีนักท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 245 ล้านคน ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวในสามไตรมาสแรกของปี 2567 และทั้งปี 2566 อยู่ที่ 287.58 พันล้านหยวน (ประมาณ 40.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 296.72 พันล้านหยวนตามลำดับ
ซินเจียงตั้งเป้าพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว รีสอร์ต และเมืองเทียบชั้นระดับโลกในช่วงสามปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงการคมนาคมขนส่ง ซึ่งรวมถึงเส้นทางการบินภายในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนโครงการถนนในชนบท
ยิ่งไปกว่านั้น ซินเจียงยังมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการยกระดับบริการการท่องเที่ยวให้เป็นสากล เช่น การรับบัตรธนาคารต่างประเทศ การทำให้ขั้นตอนการเช็คอินโรงแรมรวดเร็วขึ้นเพื่อลดเวลารอคอย และการอนุญาตให้ชาวต่างชาติจองตั๋วออนไลน์โดยใช้หนังสือเดินทางและบัตรประจำตัวผู้อยู่อาศัยถาวร
การพัฒนาต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความน่าสนใจของซินเจียงในฐานะจุดหมายปลายทางการลงทุนและการท่องเที่ยวระดับโลกในอนาคต
- ทันสมัย เปิดกว้าง มีชีวิตชีวา - เสน่ห์ของซินเจียงผ่านสายตาสื่อต่างชาติ
หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดและการประชุมใหญ่ที่จัดขึ้นในเมืองอุรุมชี ซึ่งเป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์แล้ว วันต่อมา ผู้เข้าร่วมประชุมเวิลด์ มีเดีย ซัมมิต ยังมีโอกาสได้เที่ยวชมเมืองเพื่อสัมผัสประสบการณ์ความหลากหลาย การไม่แบ่งแยก และการต้อนรับที่อบอุ่นด้วยตาของตนเอง
โมริยาสุ ชิกาซาวะ กรรมการผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศของสำนักข่าวเกียวโด หนึ่งในผู้เข้าร่วมการประชุม WMS กล่าวว่า
"ก่อนเดินทางมา ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับซินเจียงค่อนข้างน้อย ผมเคยจินตนาการว่าภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายและภูเขา ผมไม่เคยคิดว่าที่นี่จะกว้างใหญ่ขนาดนี้ หรืออุรุมชีจะเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามเช่นนี้" เขาเล่าถึงความรู้สึกที่ได้เดินทางมาเยือนซินเจียงเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ ชิกาซาวะได้สำรวจเมืองอุรุมชี และสัมผัสกับวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา เขาประทับใจกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพนักงานต้อนรับในร้านอาหาร และเนื้อแกะย่างเสียบไม้แสนอร่อยที่ตลาดต้าปาจา หรือซินเจียง อินเตอร์เนชั่นแนล แกรนด์ บาซาร์
นอกจากอูรุมชีแล้ว คณะสื่อมวลชนยังได้เดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ด้วย หนึ่งในนั้นคือ ทูหลูฟาน ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในพื้นที่หลักของแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม โดยนอกจากอุตสาหกรรมองุ่นที่มีชื่อเสียงแล้ว ทูหลูฟานยังเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณเกาชางและเมืองโบราณเจียวเหอ ซึ่งเคยเป็นเมืองสำคัญบนเส้นทางสายไหมในอดีตกาล
ด้านแมรี สเคียโว นักวิเคราะห์ด้านการบินจากองค์กรสื่อต่างประเทศแห่งหนึ่ง รู้สึกประทับใจกับพื้นที่อันกว้างใหญ่และอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรืองของซินเจียง "ความประทับใจแรกของฉันเกี่ยวกับซินเจียงคือความมีชีวิตชีวา" พร้อมเปรียบเทียบความคล้ายกันของซินเจียงและ AI ได้อย่างน่าสนใจว่า "ผู้คนอาจไม่รู้จักมันมากนัก แต่พวกเขาได้ยินได้ฟังเรื่องราวมามากมาย การจัดประชุมซัมมิตที่ซินเจียงนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง การได้มาที่นี่ ได้เห็นซินเจียงด้วยตัวคุณเอง เป็นประสบการณ์ที่เปิดหูเปิดตาจริง ๆ"
ขณะที่มาร์ก เลอวีน นักวิชาการชาวอเมริกันและอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมินซูของจีนซึ่งร่วมทริปนี้ด้วย ได้ย้อนความทรงจำที่เขาได้มีโอกาสเดินทางไปยังเมืองคัชการ์เมื่อปีที่แล้ว
"ผมอาศัยอยู่ที่ประเทศจีนมา 19 ปีแล้ว และประสบการณ์ดังกล่าวยังคงตราตรึง" เลอวีนกล่าว "ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการศึกษากลุ่มชาติพันธุ์ ผมมีนักศึกษาจากซินเจียง ทั้งชนชาติคาซัค อุยกูร์ มองโกเลีย และฮั่น พวกเขาใช้ชีวิตและสื่อสารกันได้อย่างกลมกลืน ในขณะที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมและภาษาของตนเองได้เป็นอย่างดี สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มารวมกันเพื่อทำให้จีนเป็นประเทศหนึ่งเดียว"
ในขณะที่ซินเจียงกำลังเข้าสู่ช่วงที่ดีที่สุดของการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ การประชุมครั้งนี้จึงถือเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการบอกเล่าเรื่องราวที่แท้จริง มีชีวิตชีวา และสวยงามของซินเจียง
ตูนิยาซ ประธานเขตปกครองตนเองซินเจียง กล่าวว่า การพัฒนาอย่างมีคุณภาพและการเปิดกว้างของซินเจียงนั้นไม่สามารถแยกออกจากการสื่อสารที่จริงใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมได้
"เราขอเชิญเพื่อน ๆ สื่อมวลชนมาที่ซินเจียงเพื่อทำข่าวหรือท่องเที่ยว และแบ่งปันเรื่องราวที่แท้จริงของภูมิภาคนี้กับคนทั่วโลก"