องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) เปิดเผยในวันอังคาร (12 พ.ย.) ว่า FAA จะห้ามไม่ให้สายการบินสหรัฐฯ ทุกแห่งดำเนินการในเฮติเป็นเวลา 30 วัน หลังเกิดเหตุเครื่องบินพาณิชย์ 3 ลำถูกยิงเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.)
สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ระบุในแถลงการณ์อีกฉบับว่า FBI กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ
FAA ได้ออกประกาศระงับการดำเนินงานของสายการบินสหรัฐฯ ในดินแดนและน่านฟ้าของเฮติในระดับต่ำกว่า 10,000 ฟุต (3,048 เมตร) เป็นเวลา 30 วัน โดยระบุถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการบินที่เกิดจากความไม่มีเสถียรภาพด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ (American Airlines) ระบุในวันอังคารว่า เครื่องบินของสายการบินเป็นเครื่องบินของสหรัฐลำที่ 3 ที่ถูกยิงในเฮติ โดยจากการตรวจสอบเครื่องบินของเที่ยวบิน 819 ที่เดินทางมาจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ หลังจากลงจอดที่เมืองไมอามีพบว่า ส่วนนอกของเครื่องบินมีร่องรอยถูกยิงจากกระสุนปืน
อเมริกัน แอร์ไลน์ระบุว่า "เรากำลังร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" และได้ระงับการให้บริการในเฮติไปจนถึงวันที่ 12 ก.พ.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เครื่องบินลำหนึ่งของสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ส (Spirit Airlines) ที่เดินทางไปยังกรุงปอร์โตแปรงซ์ ถูกยิงด้วยกระสุนปืน และต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สาธารณรัฐโดมินิกันซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่เที่ยวบินของสายการบินเจ็ตบลู แอร์เวย์ส (JetBlue Airways) ที่เดินทางกลับมาจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ถูกพบว่าได้รับความเสียหายจากกระสุนปืนหลังเดินทางถึงนิวยอร์ก
ทั้งนี้ สปิริต แอร์ไลน์สระบุว่า เครื่องบินได้รับความเสียหายและต้องหยุดใช้งานขณะที่ลงจอดในเมืองซันติอาโก ทางตอนเหนือของโดมินิกัน ขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้รับบาดเจ็บ 1 ราย แต่ไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด