พายุโซนร้อนซารา (Sara) กำลังมุ่งหน้าสู่คาบสมุทรยูคาตันในเม็กซิโก หลังก่อให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างในฮอนดูรัสและเบลีซ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และทำผู้คนอีกนับพันต้องอพยพออกจากพื้นที่
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ (NHC) ระบุว่า แม้พายุซารามีแนวโน้มอ่อนแรงขณะเคลื่อนตัวเข้าใกล้รัฐควินตานาโรของเม็กซิโก แต่ก็เตือนว่าอิทธิพลของพายุจะทำให้ฝนตกหนักและอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมและโคลนถล่ม
NHC คาดว่า ความเร็วลมสูงสุดของพายุซาราจะอยู่ที่ 35 ไมล์ต่อชั่วโมง (56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และคาดว่าเมื่อพายุเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือจะมีความเร็วลมอยู่ที่ 12 ไมล์ต่อชั่วโมง (19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
รายงานล่าสุดของ NHC ชี้ว่า ขณะนี้จุดศูนย์กลางของพายุอยู่ห่างจากเมืองกัมเปเชของเม็กซิโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 ไมล์ (257 กิโลเมตร)
ทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยจัดการความเสี่ยงของฮอนดูรัสกล่าวว่า มีผู้คนมากกว่า 110,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากพายุลูกดังกล่าว โดยมีผู้ที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยราว 8,000 คน และอีกราว 5,000 คนต้องอยู่ในศูนย์หลบภัย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ชุมชนท้องถิ่น 1,700 แห่งได้ถูกตัดขาดจากการสื่อสาร เนื่องจากฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ทางตะวันออกและทางใต้
นอกจากนี้มีรายงานว่า พื้นที่เพาะปลูกกาแฟทางตะวันออกเฉียงเหนือและทางตอนใต้ของฮอนดูรัสซึ่งเป็นประเทศผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของอเมริกากลาง อาจได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ดี ทางการฮอนดูรัสยังไม่ได้ประเมินความเสียหายในขณะนี้