รัฐบาลของรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียแถลงวันนี้ (19 พ.ย.) ว่า รถไฟในนครซิดนีย์จะหยุดให้บริการทั้งระบบเป็นเวลา 4 วัน นับตั้งแต่วันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) เนื่องจากพนักงานเตรียมนัดหยุดงานประท้วง ท่ามกลางข้อพิพาทขอขึ้นค่าจ้าง
ทางการเตือนว่าจะเกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารนับล้านคนทั่วเมืองซิดนีย์ระหว่างวันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) หลังการเจรจากับสหภาพแรงงานรถไฟ รถราง และรถประจำทางของออสเตรเลีย (RTBU) เพื่อเลี่ยงการประท้วงนั้นล้มเหลว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สหภาพ RTBU เรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นปรับขึ้นค่าจ้าง 32% ภายในระยะเวลา 4 ปี สำหรับพนักงานรถไฟในซิดนีย์ 14,000 คน และให้รับประกันว่าจะเปิดให้บริการรถไฟทุกสายในซิดนีย์ตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงสุดสัปดาห์ แต่รัฐมองว่าจะนำไปสู่ความล้มเหลวของระบบรถไฟ
รัฐได้เสนอทางเลือกให้เปิดบริการ 24 ชั่วโมงในช่วงสุดสัปดาห์เฉพาะเส้นทางจากซิดนีย์ตะวันตกผ่านย่านธุรกิจกลางเมืองไปยังชานเมืองทางตอนเหนือ แต่สหภาพปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว
นอกจากกระทบเส้นทางรถไฟในเขตชานเมืองทั้งหมดของซิดนีย์แล้ว การหยุดให้บริการครั้งนี้ยังจะส่งผลกระทบต่อรถไฟระหว่างเมืองด้วย ซึ่งจะทำให้คนทำงานที่อาศัยอยู่นอกซิดนีย์ไม่สามารถเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟได้
ทั้งนี้ รัฐบาลของรัฐนิวเซาท์เวลส์เสริมว่า จะพิจารณาเพิ่มบริการขนส่งสาธารณะอื่น ๆ เพื่อชดเชยการหยุดให้บริการดังกล่าว แต่หน่วยงานขนส่งของรัฐแจ้งว่าจะไม่สามารถจัดรถโดยสารพิเศษสำหรับงานกีฬาและดนตรีสำคัญ ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ได้ทั้งหมด