องค์การอนามัยโลก (WHO) อนุมัติวัคซีนโรคฝีดาษลิง (Mpox) ที่ผลิตโดยบริษัทเคเอ็ม ไบโอโลจิกส์ (KM Biologics) ของญี่ปุ่นสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินแล้วเมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ซึ่งนับเป็นวัคซีนตัวที่ 2 ที่ได้รับการอนุมัติจาก WHO
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา WHO ประกาศว่า โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลกครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ปี หลังจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า "เคลด 1 บี" (Clade Ib) แพร่กระจายจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกไปยังบรรดาประเทศใกล้เคียง
ในเดือนก.ย. หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าดำเนินการล่าช้าเกินไปในด้านวัคซีน WHO จึงได้ทำการอนุมัติวัคซีนโรคฝีดาษลิงของบริษัทบาวาเรียน นอร์ดิก (Bavarian Nordic) และเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาใช้วัคซีน LC16 ซึ่งผลิตโดยบริษัทเคเอ็ม ไบโอโลจิกส์ของญี่ปุ่น เพื่อเป็นวัคซีนทางเลือกด้วย
WHO เปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะบริจาควัคซีนดังกล่าวจำนวน 3.05 ล้านโดสพร้อมเข็มฉีดยาพิเศษให้กับประเทศคองโก โดยวัคซีนนี้เคยถูกใช้ในญี่ปุ่นมาแล้วในช่วงที่มีการระบาดของโรคฝีดาษลิงในอดีต และได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แม้แต่กับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
เคเอ็ม ไบโอโลจิกส์ผลิตวัคซีนสำหรับมนุษย์และสัตว์เป็นหลัก โดยเป็นบริษัทในเครือของเมจิ โฮลดิงส์ (Meiji Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตขนมหวานของญี่ปุ่น
จากข้อมูลล่าสุดของ WHO นั้นพบว่า มีผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงที่ได้รับการยืนยันหรือต้องสงสัยติดเชื้อจำนวนมากกว่า 50,500 รายในแอฟริกาในปีนี้ และมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,100 ราย