นายอู๋ เฉียน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน กล่าวเรียกร้องให้สหรัฐถอนระบบขีปนาวุธไทฟอน (Typhon) ออกจากฟิลิปปินส์โดยทันที
ทั้งนี้ สหรัฐได้ติดตั้งระบบขีปนาวุธไทฟอนในฟิลิปปินส์นับตั้งแต่การซ้อมรบในช่วงต้นปีนี้ และยังคงไม่ได้ถอนกลับจนถึงปัจจุบัน โดยขีปนาวุธพิสัยกลางดังกล่าวสามารถโจมตีไกลถึงเป้าหมายในจีน ขณะที่มีรายงานว่าฟิลิปปินส์กำลังพิจารณาซื้อขีปนาวุธดังกล่าวจากสหรัฐ
"การที่ฟิลิปปินส์ติดตั้งขีปนาวุธดังกล่าวจะถือเป็นการเผชิญหน้าทางภูมิรัฐศาสตร์ และจะเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค"
"นี่ไม่ใช่เรื่องของฟิลิปปินส์เท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของทุกประเทศในภูมิภาค"
"เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องถอนระบบขีปนาวุธไทฟอนโดยทันที ซึ่งหากสหรัฐและฟิลิปปินส์ยังคงยืนกรานที่จะเดินไปสู่แนวทางที่ผิดพลาด จีนก็จะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด" นายอู๋กล่าว
ด้านนายเซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียกำลังพิจารณาติดตั้งขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลางในเอเชีย หากพบว่าสหรัฐทำการติดตั้งขีปนาวุธในภูมิภาคดังกล่าวเช่นกัน
"การปรากฏของระบบขีปนาวุธสหรัฐในภูมิภาคใด ๆ ในโลก จะเป็นตัวตัดสินการดำเนินขั้นตอนต่อไปของเรา ซึ่งรวมถึงการจัดโครงสร้างและการตอบโต้ทางการทหาร" นายรยาบคอฟกล่าว หลังผู้สื่อข่าวถามว่า รัสเซียกำลังพิจารณาติดตั้งขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลางในเอเชียหรือไม่
นอกจากนี้ นายรยาบคอฟกล่าวว่า ฐานทัพของสหรัฐในยุโรป ซึ่งรวมถึงฐานทัพที่มีการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี จะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของรัสเซียในกรณีที่มีการเผชิญหน้ากันทางทหาร
ส่วนนางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะทำการตอบโต้กลับ หากสหรัฐติดตั้งขีปนาวุธในญี่ปุ่น ซึ่งจะกระทบต่อความมั่นคงของรัสเซีย
นอกจากนี้ นางซาคาโรวากล่าวหาว่าญี่ปุ่นได้เพิ่มความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน เพื่อสร้างความชอบธรรมในการขยายความร่วมมือทางการทหารกับสหรัฐ
นางซาคาโรวายังได้แนะนำให้ญี่ปุ่นอ่านหลักการใหม่ของรัสเซียในการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อให้รับรู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการติดตั้งขีปนาวุธของสหรัฐ
ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐเตรียมจัดทำแผนร่วมมือด้านการทหารเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวัน โดยแผนการดังกล่าวรวมถึงการติดตั้งขีปนาวุธของสหรัฐในญี่ปุ่น
รายงานระบุว่า สหรัฐจะทำการติดตั้งขีปนาวุธที่จังหวัดโอกินาวาและคาโกชิมะของญี่ปุ่น รวมทั้งในประเทศฟิลิปปินส์