โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ยืนยันคำมั่นอีกครั้งเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ว่าจะขัดขวางไม่ให้บริษัทนิปปอน สตีล คอร์ป (Nippon Steel Corp) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่จากญี่ปุ่น เข้าซื้อกิจการบริษัทยูไนเต็ด สเตทส์ สตีล คอร์ป (United States Steel Corp) หรือ ยูเอส สตีล พร้อมย้ำว่าการดำเนินการนี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนม.ค.
"ผมคัดค้านอย่างสุดตัว ที่บริษัทที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่และทรงพลังอย่างยูเอส สตีล จะถูกบริษัทต่างชาติเข้าซื้อ ในกรณีนี้คือนิปปอน สตีล จากญี่ปุ่น" ทรัมป์ระบุผ่านแพลตฟอร์มทรูธ โซเชียล (Truth Social)
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นิปปอน สตีล หวังบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการยูเอส สตีล ให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค.
ในระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ได้เคยให้คำมั่นว่าหากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะระงับข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้ยูเอส สตีล และนิปปอน สตีล ได้ตกลงกันไว้แล้วก็ตาม
"เราจะใช้มาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีและภาษีศุลกากรต่าง ๆ เพื่อให้ยูเอส สตีล แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่อีกครั้ง และมันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว!" ทรัมป์กล่าว "ในฐานะประธานาธิบดี ผมจะระงับข้อตกลงนี้ไม่ให้เกิดขึ้น ผู้ซื้อระวังตัวไว้!!!"
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการกำกับและดูแลการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ (CFIUS) กำลังพิจารณาข้อตกลงซื้อกิจการยูเอส สตีล จนถึงสิ้นเดือนธ.ค. โดย CFIUS มีหน้าที่ตรวจสอบว่า ธุรกรรมการลงทุนจากต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับบริษัทสหรัฐฯ จะก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศหรือไม่