นักบินสองคนซึ่งมีกำหนดนำเที่ยวบิน 774 ของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAL) พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 114 คน ออกเดินทางจากนครเมลเบิร์นของออสเตรเลียไปยังเมืองนาริตะใกล้กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.นั้น ไม่ผ่านการตรวจวัดแอลกอฮอล์ก่อนขึ้นเครื่อง ส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้ากว่า 3 ชั่วโมง
สายการบินเจแปนแอร์ไลน์เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) และระบุว่าทางสายการบินได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อกระทรวงคมนาคมแล้วเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) หลังจากพบว่านักบินมีระดับแอลกอฮอล์สูงเกินกว่าที่บริษัทกำหนด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กรณีดังกล่าวนับเป็นเหตุการณ์อื้อฉาวล่าสุดที่เกิดขึ้นกับพนักงานของสายการบินหลังจากที่เคยเกิดเรื่องทำนองเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์เมื่อเดือนเม.ย. ที่นักบินของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ถูกเตือนด้วยวาจาจากตำรวจดัลลัส หลังจากที่เขาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่อเดินทางจากสนามบินฮาเนดะของโตเกียวไปถึงเมืองดัลลัสในรัฐเท็กซัส
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ได้สั่งห้ามลูกเรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง แต่คำสั่งดังกล่าวได้ถูกยกเลิกในเดือนก.ย. ขณะที่กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นได้ออกคำสั่งปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ 2 ฉบับแก่สายการบินเจแปนแอร์ไลน์เกี่ยวกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์