สตีเฟน โจนส์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของออสเตรเลียประกาศในวันนี้ (12 ธ.ค.) ว่า ออสเตรเลียวางแผนออกกฎใหม่เพื่อ "สร้างแรงจูงใจทางการเงิน" ให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จ่ายเงินให้กับบริษัทสื่อของออสเตรเลียสำหรับเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์ม
มาตรการนี้เรียกว่า "โครงการเจรจาต่อรองข่าว" (News Bargaining Initiative) เป็นการกดดันบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น กูเกิ้ล (Google) และเมตา (Meta) เจ้าของเฟซบุ๊ก (Facebook) ให้จ่ายเงินค่าคอนเทนต์ข่าวแก่สำนักข่าว มิฉะนั้นอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมหลายล้านดอลลาร์เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจในออสเตรเลียต่อไปได้
โจนส์แถลงต่อสื่อมวลชนว่า โครงการริเริ่มดังกล่าวจะสร้างแรงจูงใจทางการเงินให้เกิดการทำข้อตกลงระหว่างแพลตฟอร์มดิจิทัลกับธุรกิจสื่อในออสเตรเลีย พร้อมเสริมว่า แพลตฟอร์มที่เสี่ยงต่อการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจะเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและเสิร์ชเอนจินขนาดใหญ่ที่มีรายได้ในออสเตรเลียเกิน 250 ล้านดอลลาร์
ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกหักลบกับข้อตกลงทางการค้าที่เกิดขึ้นโดยสมัครใจระหว่างแพลตฟอร์มกับธุรกิจสื่อ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ออสเตรเลียผ่านกฎหมายในปี 2564 เพื่อบังคับให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง กูเกิ้ล และเมตา จ่ายค่าชดเชยให้กับบริษัทสื่อสำหรับลิงก์ที่นำผู้อ่านไปยังแพลตฟอร์มของพวกเขา
ด้านโฆษกของเมตากล่าวหลังการประกาศของโจนส์ว่า "เราเห็นด้วยกับรัฐบาลว่ากฎหมายปัจจุบันมีข้อบกพร่อง แต่เรายังคงกังวลเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินจากอุตสาหกรรมหนึ่งเพื่อไปอุดหนุนอีกอุตสาหกรรมหนึ่ง"
"ข้อเสนอนี้ไม่ได้คำนึงถึงความเป็นจริงของวิธีการทำงานของแพลตฟอร์มเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงที่ว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้เข้ามาที่แพลตฟอร์มของเราเพื่อเสพคอนเทนต์ข่าว และบริษัทสื่อเลือกที่จะโพสต์เนื้อหาบนแพลตฟอร์มของเราโดยสมัครใจ เพราะพวกเขาได้รับประโยชน์จากการทำเช่นนั้น"
ทั้งนี้ เมตาได้ทำข้อตกลงกับบริษัทสื่อหลายแห่งของออสเตรเลีย รวมถึงนิวส์ คอร์ป (News Corp) และออสเตรเลียน บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (ABC) แต่ประกาศในเวลาต่อมาว่าจะไม่ต่ออายุข้อตกลงเหล่านั้นหลังปี 2567