เจ้าหน้าที่รัสเซียรายงานว่า เรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียที่บรรทุกน้ำมันหลายพันตันประสบเหตุอับปางอันเนื่องมาจากพายุโหมกระหน่ำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) ส่งผลให้เกิดน้ำมันรั่วลงสู่ช่องแคบเคิร์ช (Kerch Strait) ขณะที่เรือบรรทุกน้ำมันอีกลำหนึ่งก็ประสบปัญหาหลังได้รับความเสียหายเช่นกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เรือ 2 ลำส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือขณะอยู่ในช่องแคบเคิร์ชที่เชื่อมแผ่นดินใหญ่ของรัสเซียกับแหลมไครเมีย ซึ่งถูกผนวกดินแดนในปี 2557
ทางด้านเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนของรัสเซียสั่งเปิดคดีอาญา 2 คดี เพื่อตรวจสอบว่ามีการละเมิดมาตรการความปลอดภัยหรือไม่ หลังพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย จากลูกเรือทั้งหมด 15 คน
รายงานระบุว่า เรือวอลโกเนฟต์-212 (Volgoneft) ขนาด 136 เมตร แตกเป็นสองส่วน โดยหัวของเรือจมลงสู่ทะเล โดยภาพที่เผยแพร่โดยสื่อของรัฐบาลแสดงให้เห็นคลื่นซัดผ่านดาดฟ้าเรือ โดยเรือที่ติดธงรัสเซียลำนี้ ซึ่งสร้างขึ้นในปี 2512 นั้นได้รับความเสียหายและเกยตื้น
ขณะเดียวกัน กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซียแจ้งว่า เรือลำที่สอง คือเรือวอลโกเนฟต์-239 (Volgoneft) ขนาด 132 เมตร ซึ่งติดธงชาติรัสเซียเช่นกัน กำลังลอยเคว้งหลังได้รับความเสียหาย เรือลำนี้มีลูกเรือ 14 คน
ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินแถลงต่อสื่อมวลชนว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย สั่งการให้รัฐบาลจัดตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการกู้ภัยและบรรเทาผลกระทบจากน้ำมันรั่วไหล หลังจากที่ปธน.ปูตินได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินและสิ่งแวดล้อมของรัสเซีย
รายงานระบุว่าขณะนี้ทางการรัสเซียได้ส่งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์กว่า 50 ชุด รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 และเรือลากจูงกู้ภัย เข้าไปในพื้นที่แล้ว
ทั้งนี้ ช่องแคบเคิร์ชเป็นเส้นทางสำคัญในการส่งออกธัญพืชของรัสเซีย และยังใช้สำหรับการส่งออกน้ำมันดิบ น้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซธรรมชาติเหลว