เหล่ามิจฉาชีพในจีนกำลังฉวยโอกาสหลอกลวงผู้ที่มีปัญหาทางการเงินท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัว ด้วยการหลอกล่อผ่านเงินรางวัล การปรับโครงสร้างหนี้ และแผนการต่างๆ ที่มักไม่เป็นไปตามที่สัญญาไว้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้จะไม่ได้เดิมพันด้วยชีวิตเหมือนในซีรีส์ "Squid Game" แต่ศาลจีนพบว่าผู้เข้าร่วมชาเลนจ์เหล่านี้หลายรายตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง โดยบางคนต้องจ่ายเงินหลายพันหยวนเพื่อเข้าร่วมชาเลนจ์ที่มีเงื่อนไขเข้มงวด เพื่อหวังคว้าเงินรางวัลสูงสุดถึง 1 ล้านหยวน (ประมาณ 140,000 ดอลลาร์) อีกทั้งหน่วยงานกำกับดูแลได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงที่อ้างว่าจะช่วยปลดหนี้
รายงานระบุว่า ชาเลนจ์เหล่านี้มักโฆษณาผ่านโต่วอิน (Douyin) หรือติ๊กต็อก (TikTok) เวอร์ชันจีน และได้รับความนิยมมากขึ้นในปีนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่เติบโตช้าที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปีในช่วงไตรมาส 3/2567 จนบีบให้รัฐบาลต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
กติกาของชาเลนจ์มักมีกฎระเบียบมากมาย เช่น เข้าห้องน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที และห้ามแตะนาฬิกาปลุกเกิน 2 ครั้งต่อวัน ผู้เล่นหลายคนรู้สึกไม่เป็นธรรมเมื่อถูกตัดสิทธิ์ตั้งแต่วันแรก หลังถูกจับได้จากกล้องวงจรปิด แม้จะพยายามโต้แย้งข้อกล่าวหานั้นก็ตาม เช่นกรณีของนายซุน ผู้เข้าร่วมที่ถูกตัดสิทธิ์เพราะเอาหมอนปิดหน้า ศาลมณฑลซานตงสั่งให้ผู้จัดคืนเงินค่าสมัคร 5,400 หยวน (740 ดอลลาร์) เนื่องจากสัญญาไม่เป็นธรรมและ "ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี"
ขณะเดียวกัน สำนักงานกำกับดูแลการเงินแห่งชาติ (NFRA) ได้ออกคำเตือนมื่อวันอังคาร (24 ธ.ค.) ให้ประชาชนระมัดระวังมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็น "ตัวกลางจัดการหนี้" ที่อ้างว่าสามารถช่วยปรับโครงสร้างการกู้ยืม หรือแก้ไขประวัติสินเชื่อ แต่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงถึง 12% ของวงเงินกู้
นอกจากนี้ NFRA ยังเตือนเกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมสูงเพื่อ "แก้ไขประวัติสินเชื่อ" ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการที่ข้อมูลส่วนตัวของผู้กู้จะถูกเปิดเผยหรือขายต่อได้