ตำรวจฟินแลนด์เปิดเผยในวันนี้ (26 ธ.ค.) ว่า ทางหน่วยงานกำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ที่เรือต่างชาติลำหนึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเสียหายของสายเคเบิลไฟฟ้าใต้ทะเลที่เชื่อมระหว่างฟินแลนด์กับเอสโตเนีย หลังจากเกิดเหตุขัดข้องอย่างกะทันหันเมื่อวานนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประเทศรอบทะเลบอลติกต่างเฝ้าระวังการก่อวินาศกรรมอย่างใกล้ชิด หลังจากเกิดเหตุขัดข้องหลายครั้งกับสายไฟฟ้า สายสัญญาณโทรคมนาคม และท่อส่งก๊าซนับตั้งแต่ปี 2565 แม้ว่าอุปกรณ์ใต้ทะเลเหล่านี้จะมีความเสี่ยงจากความเสียหายทางเทคนิคและอุบัติเหตุด้วยเช่นกันก็ตาม
ฟินกริด (Fingrid) บริษัทส่งไฟฟ้าของฟินแลนด์ เปิดเผยว่า สายไฟฟ้า Estlink 2 ขนาด 658 เมกะวัตต์ (MW) ยังไม่สามารถใช้งานได้ หลังจากเริ่มเกิดเหตุขัดข้องตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันพุธ (25 ธ.ค.) ทำให้เหลือเพียงสายส่ง Estlink 1 ขนาด 358 เมกะวัตต์ที่ยังคงทำงานอยู่ระหว่างสองประเทศ
"ตำรวจร่วมกับหน่วยยามฝั่งและหน่วยงานอื่น ๆ กำลังสอบสวนลำดับของเหตุการณ์นี้" ตำรวจฟินแลนด์ระบุในแถลงการณ์ แต่ไม่ได้เปิดเผยชื่อเรือต่างชาติที่คาดว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว