แหล่งข่าวเปิดเผยในวันนี้ (4 ม.ค.) ว่า นิปปอน สตีล คอร์ป (Nippon Steel Corp) เตรียมยื่นฟ้องร้องการตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ ที่ขัดขวางการเข้าซื้อกิจการของบริษัทยูเอส สตีล คอร์ป (United States Steel Corp) วงเงิน 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์
เมื่อวันศุกร์ (3 ม.ค.) ไบเดนกล่าวว่าข้อตกลงนี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ผลิตเหล็กจากญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ยกเลิกแผนการซื้อกิจการนี้อย่างถาวรและเต็มที่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นของยูเอส สตีล ขณะเดียวกัน ผู้นำของสหภาพแรงงานยูไนเต็ด สตีลเวิร์กเกอร์ส (United Steelworkers) ก็ได้คัดค้านการเข้าซื้อกิจการนี้อย่างแข็งขัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นิปปอน สตีล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กใหญ่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และยูเอส สตีล ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กขนาดเล็กกว่า ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันในทันที โดยระบุว่า การตรวจสอบข้อตกลงของพวกเขาจากทางการสหรัฐฯ ได้ถูกปรับเปลี่ยนเพื่อสนับสนุนเป้าหมายทางการเมืองของปธน.ไบเดน และพวกเขาจะดำเนินการทุกรูปแบบที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิทางกฎหมาย
คำสั่งของไบเดนนั้นถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งห้ามข้อตกลงการควบรวมกิจการและการซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องกับบริษัทญี่ปุ่น
ทั้งสองบริษัทคาดว่าจะแจ้งต่อศาลว่า ไบเดนไม่ได้แสดงหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าการเข้าซื้อกิจการเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ และการตัดสินใจของไบเดนละเมิดกระบวนการทางกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ และกฎหมายที่กำกับดูแลคณะกรรมการการลงทุนต่างประเทศในสหรัฐฯ
คณะกรรมการฯ ได้ทบทวนข้อตกลงนี้ แต่ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าไม่สามารถตัดสินใจได้ ทำให้ไบเดนต้องเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนี้