ผลการศึกษาชี้ อุตสาหกรรมการบินเติบโตกระทบเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอน

ข่าวต่างประเทศ Monday January 13, 2025 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศ Transport and Environment เปิดเผยผลการศึกษาในวันนี้ (13 ม.ค.) ซึ่งคาดการณ์ว่า จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางทางอากาศจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าภายในปี 2593 ส่งผลให้ความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อการลดการปล่อยมลพิษของอุตสาหกรรมการบิน

กลุ่ม Transport and Environment ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) ดำเนินมาตรการเพื่อจำกัดการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมการบิน ในขณะที่บรรดาผู้นำในอุตสาหกรรมมารวมตัวกันที่กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมการเงินประจำปี ซึ่งคาดว่าจะมีการเจรจาทำข้อตกลงขายเครื่องบินจำนวนมากในระหว่างการประชุมดังกล่าว

ผลการศึกษาระบุว่า มาตรการที่จะนำมาใช้เพื่อควบคุมการเดินทางทางอากาศที่เติบโตอย่างรวดเร็วนั้นอาจรวมถึงการจำกัดการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานสนามบินและการเดินทางขององค์กร (corporate travel) รวมไปถึงการขึ้นภาษีภาคอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมการบิน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 2.5% ของการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก ได้ให้คำมั่นว่าจะใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) มากขึ้น เพื่อลดการปล่อยและบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 แต่อุปทานที่จำกัดและราคาที่สูงกว่าเชื้อเพลิงเครื่องบินทั่วไปถึงห้าเท่า ทำให้ปัจจุบันการใช้เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังมีสัดส่วนอยู่น้อยมาก

ผลการศึกษาดังกล่าวยังคาดการณ์อีกด้วยว่า การใช้เชื้อเพลิงของอุตสาหกรรมการบินจะเพิ่มขึ้น 59% ภายในปี 2593 จากระดับปี 2562 เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น และในขณะที่ผู้ผลิตเครื่องบินทั้งแอร์บัส (Airbus) และโบอิ้ง (Boeing) ต่างคาดการณ์การเติบโตของการเดินทางทางอากาศ จึงคาดว่าการปล่อยมลพิษจะเพิ่มขึ้น แม้จะมีการเปิดตัวเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและมีการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ