เกิดไฟป่าแห่งใหม่ลุกไหม้ขึ้นทางตอนเหนือของเมืองลอสแอนเจลิสเมื่อวันพุธ (22 ม.ค.) ซึ่งลุกลามอย่างรวดเร็วและกินพื้นที่มากกว่า 8,000 เอเคอร์ (32 ตารางกิโลเมตร) เนื่องจากมีกระแสลมแรงและพุ่มไม้แห้ง ส่งผลให้ประชาชนกว่า 19,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่
ไฟป่าฮิวจ์ (Hughes fire) ที่ลุกไหม้ห่างออกไปทางตอนเหนือของลอสแอนเจลิสราว 50 ไมล์ (80 กิโลเมตร) ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงในภูมิภาคต้องทำงานหนักขึ้น หลังจากที่พวกเขาสามารถควบคุมไฟไหม้ใหญ่ 2 จุดก่อนหน้านี้ได้แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในวันพุธ ไฟป่าจุดใหม่ลุกโหมขึ้นจนมีขนาดใหญ่กว่าครึ่งหนึ่งของไฟป่าอีตัน (Eaton Fire) ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ไฟไหม้ใหญ่ที่สร้างความเสียหายแก่พื้นที่ลอสแอนเจลิส
เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนในพื้นที่ทะเลสาบคาสเตอิกของเทศมณฑลลอสแอนเจลิสว่า พวกเขาเผชิญกับ "ภัยคุกคามถึงชีวิตทันที" ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียคงอยู่ภายใต้ประกาศเตือนภัยระดับสีแดงจากความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้รุนแรงเนื่องจากลมที่พัดแรงและอากาศแห้ง
หน่วยงานดับเพลิงของเทศมณฑลลอสแอนเจลิสรายงานว่า ประชาชนราว 19,000 คนได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากพื้นที่ ขณะที่อีก 16,000 คนได้รับคำเตือนเกี่ยวกับการอพยพ
เจ้าหน้าที่ระบุว่า นับตั้งแต่ที่เกิดไฟไหม้ 2 จุดเมื่อวันที่ 7 ม.ค. เปลวเพลิงได้เผาผลาญพื้นที่เกือบเท่ากับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยคร่าชีวิตผู้คนไป 28 ราย และสร้างความเสียหายหรือทำลายอาคารบ้านเรือนไปเกือบ 16,000 หลัง และทำให้ประชาชน 180,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่
ทั้งนี้ บริษัทพยากรณ์อากาศเอกชนแอคคิวเวเธอร์ (AccuWeather) คาดว่า ความเสียหายและความสูญเสียทางเศรษฐกิจมีมูลค่ามากกว่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์