ฌอน ดัฟฟี ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ยืนยันว่า เขาจะยังคงจำกัดการผลิตเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX เอาไว้ที่จำนวน 38 ลำต่อเดือน จนกว่าจะมั่นใจว่าสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างปลอดภัย
"เราจะคงเพดานการผลิตไว้ และจะยกเลิกก็ต่อเมื่อผมได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) และผู้บริหาร จนมั่นใจว่าการเพิ่มกำลังการผลิตจะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของเครื่องบิน" ดัฟฟีระบุในเอกสารที่ส่งถึงคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ของวุฒิสภาสหรัฐฯ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในเดือนม.ค. 2567 ไมค์ วิทเทเกอร์ อดีตผู้บริหาร FAA ได้ประกาศใช้มาตรการจำกัดการผลิตเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 หลังเกิดเหตุแผงประตูเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 9 ของสายการบินอลาสก้า แอร์ไลน์ หลุดกลางอากาศ
ส่วนในระหว่างการตอบข้อซักถามของวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (22 ม.ค.) นั้น ดัฟฟีกล่าวว่าเขามีแผนจะพบผู้บริหารของบริษัทโบอิ้งโดยเร็วที่สุด เพื่อแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนว่ากระทรวงคมนาคม และ FAA จะยังคงกำกับดูแลให้โบอิ้งปฏิบัติตามแผนของกระทรวงอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ดัฟฟีกล่าวเสริมว่า เขาจะทำงานร่วมกับผู้บริหาร FAA และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย เพื่อกำหนดกฎเกณฑ์ด้านการดำเนินงานในอนาคตของโบอิ้ง โดยโบอิ้งเคยถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดหลังจากเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX ตกในปี 2561 และในปี 2562 โดยทั้งสองเหตุการณ์นี้มีผู้โดยสารเสียชีวิตจำนวนมาก