เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (24 ม.ค.) ว่า รูปปั้นของเจมส์ คุก หรือกัปตันคุกในซิดนีย์ ได้ถูกพ่นสีแดงและทุบเสียหายบางส่วน ก่อนถึงวันชาติของออสเตรเลียในวันอาทิตย์นี้ (26 ม.ค.)
ทั้งนี้ เจมส์ คุก เป็นนักสำรวจชาวอังกฤษและกัปตันเรือชาวตะวันตกคนแรกที่เดินทางถึงชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองที่รูปปั้นนี้ถูกทำลายและได้รับความเสียหายหลังจากเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าได้เริ่มทำการสอบสวนแล้ว และได้ตรวจพบสิ่งของหลายรายการอยู่ใกล้กับรูปปั้นดังกล่าว
แคโรลีน มาร์ติน สมาชิกสภาท้องถิ่นกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุอาจปีนรั้วรอบรูปปั้นด้วยบันไดที่พวกเขาทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ
"มันเละเทะไปหมด" มาร์ตินกล่าวกับสถานีวิทยุ 2GB "พวกเขาพ่นสีทับไปทั่ว จากนั้นก็ขึ้นไปบนส่วนยอดของรูปปั้น ทุบมือของรูปปั้น รวมถึงบางส่วนของใบหน้าและจมูก"
สำหรับชาวพื้นเมืองออสเตรเลียจำนวนมากซึ่งมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาบนทวีปนี้ยาวนานกว่า 50,000 ปี และคิดเป็นประมาณ 4% ของประชากรทั้งหมด 27 ล้านคนนั้น วันชาติออสเตรเลียถูกเรียกขานว่า เป็น "วันแห่งการรุกราน" (Invasion Day) เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของการทำลายวัฒนธรรมดั้งเดิมโดยชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกราก
กลุ่มชนพื้นเมืองจำนวนมากต้องการให้ออสเตรเลียยกเลิกการเฉลิมฉลองหรือเปลี่ยนวันชาติ ซึ่งตรงกับวันครบรอบการมาถึงของกองเรือแรกของอังกฤษในค.ศ. 1788 (พ.ศ. 2331)
ในวันที่ 26 ม.ค.ของทุกปี จะมีการชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมสำหรับชาวพื้นเมืองซึ่งถือเป็นกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสที่สุดในประเทศเมื่อเทียบจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและสังคม
ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ (Sydney Morning Herald) ที่เปิดเผยในวันนี้ (24 ม.ค.) บ่งชี้ว่า การสนับสนุนให้คงวันที่ 26 ม.ค.เป็นวันชาติของออสเตรเลียนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 61% จาก 47% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงการที่ความคิดเห็นของประชาชนได้เปลี่ยนแปลงไป