ลมพัดแรงและสภาพอากาศแห้งอาจอุปสรรคต่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในการควบคุมไฟป่าระลอกใหม่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียในวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.) ซึ่งรวมถึงเปลวไฟที่เผาผลาญพื้นที่เป็นวงกว้างและทำให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพหนีตายจากพื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองลอสแอนเจลิส
กระทรวงป่าไม้และป้องกันอัคคีภัยของรัฐแคลิฟอร์เนียหรือ Cal Fire เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ว่า ไฟป่าฮิวจ์ (Hughes Fire) ที่ลุกไหม้ห่างออกไปทางตอนเหนือของลอสแอนเจลิสราว 50 ไมล์ (80 กิโลเมตร) ลุกลามกินพื้นที่ 10,176 เอเคอร์ (4,118 เฮกตาร์) นับตั้งแต่ที่ลุกไหม้ขึ้นเมื่อเช้าวันพุธ (22 ม.ค.)
นักพยากรณ์อากาศระบุว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่กำลังควบคุมไฟป่าฮิวจ์และไฟป่าใหญ่อีก 2 จุดอันได้แก่ ไฟป่าพาลิเซดส์ (Palisades Fire) และไฟป่าอีตัน (Eaton Fire) ในลอสแอนเจลิส จะเผชิญกับลมซานตาอานา (Santa Ana) ที่รุนแรงซึ่งมีความเร็วสูงถึง 50 ไมล์ต่อชั่วโมง (80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ประกอบกับกระแสลมที่มีความเร็วสูงถึง 65 ไมล์ต่อชั่วโมง และระดับความชื้นที่ลดต่ำกว่า 10% ในวันศุกร์นี้ (24 ม.ค.)
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุในคำเตือนว่า "สภาพอากาศที่เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้จะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงวันศุกร์ เนื่องจากเชื้อเพลิงยังคงแห้งมากและพร้อมจะติดไฟทุกเมื่อ โดยวันพฤหัสบดียังคงเป็นช่วงเวลาที่น่ากังวลที่สุด ไฟใด ๆ ก็ตามที่ปะทุขึ้นมาสามารถลุกลามอย่างรวดเร็วและไม่สามารถควบคุมได้"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้คนราว 31,000 คนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่เมื่อวันพุธ เนื่องจากไฟป่าได้ทำให้เกิดเปลวไฟขนาดใหญ่และกลุ่มควันบนพื้นที่เนินเขาในพื้นที่ทะเลสาบคาสเตอิกซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองซานตาคลาริตา