สิงคโปร์เสริมแกร่งสถานะดิจิทัลฮับแห่งเอเชีย เตรียมวางสายเคเบิลใต้ทะเลเชื่อมสหรัฐฯ

เคปเปล (Keppel) บริษัทผู้จัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์เผยว่า สหรัฐฯ ได้ออกใบอนุญาตการวางระบบสายเคเบิลใต้ทะเลเส้นแรกที่เชื่อมต่อโดยตรงระหว่างสิงคโปร์กับชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยหนุนให้สิงคโปร์ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของเอเชีย

โครงการดังกล่าวมีชื่อว่า Bifrost Cable System ซึ่งมีมูลค่า 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568

หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า ระบบเคเบิลข้ามแปซิฟิกนี้มีระยะทางกว่า 20,000 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างสหรัฐฯ และสิงคโปร์ ผ่านอินโดนีเซียทางทะเลชวาและทะเลเซเลเบส

เคปเปล ซึ่งลงทุนโครงการนี้ 350 ล้านดอลลาร์ ระบุว่า โครงการนี้ "จะช่วยเสริมแกร่งสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางดิจิทัลชั้นนำของเอเชีย รวมถึงรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค"

รัฐบาลสิงคโปร์ตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเคเบิลใต้น้ำเป็นสองเท่า เพื่อเสริมสถานะการเป็นศูนย์กลางระบบที่รวมกันแล้วครอบคลุมอินเทอร์เน็ตเกือบทั้งหมดของโลก ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่มองหาเส้นทางขยายแบนด์วิดท์ในเอเชียโดยไม่ต้องผ่านจีน จนกลายเป็นโอกาสทองประเทศในอาเซียน

ทั้งนี้ โจเซฟีน เตียว รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาดิจิทัลและสารสนเทศสิงคโปร์ เคยกล่าวไว้ว่า คาดว่าโครงการเคเบิลใต้น้ำและศูนย์ข้อมูลจะดึงดูดการลงทุนราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (1.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) อีกทั้งสิงคโปร์ยังวางแผนลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมูลค่าสูงถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ด้วย