รายงานของ BloombergNEF เผยให้เห็นว่า ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและแหล่งพลังงานที่สะอาดขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศภายใต้ความตกลงปารีส โดยการลงทุนในการเปลี่ยนผ่านพลังงานทั่วโลกมีมูลค่าเกิน 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการขยายตัวของการลงทุนดังกล่าวยังไม่รวดเร็วพอ โดยรายงานระบุว่า เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในกลางศตวรรษนี้ การลงทุนทั่วโลกจะต้องมีมูลค่าเฉลี่ย 5.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปีตั้งแต่ปี 2568-2573 แต่การลงทุนในปัจจุบันอยู่ที่เพียง 37% ของมูลค่าที่จำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
การลงทุนในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานคาร์บอนต่ำขยายตัว 11% ในปี 2567 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งขับเคลื่อนโดยการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน โครงข่ายไฟฟ้า ยานยนต์ไฟฟ้า และการกักเก็บพลังงาน ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็นมูลค่า 8.18 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2566
อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตโดยรวมดังกล่าวยังช้ากว่าช่วงสามปีก่อนหน้า ซึ่งการลงทุนขยายตัวระหว่าง 24-29% ต่อปี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเคลื่อนไหวแรก ๆ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากกลับเข้ารับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คือ การนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากความตกลงปารีส ซึ่งจะทำให้การจัดสรรเงินทุนสนับสนุนด้านสภาพอากาศของสหรัฐฯ ในระดับนานาชาติล่าช้า และเพิ่มโอกาสที่ภาวะโลกร้อนจะทวีความรุนแรงขึ้น