เฮลิคอปเตอร์กองทัพสหรัฐฯ บินสูงกว่าระดับที่กำหนดก่อนชนเครื่องบินโดยสารกลางอากาศ

คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติ (NTSB) เปิดเผยเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพสหรัฐฯ บินสูงเกินกว่ากำหนดขณะที่ชนเข้ากับเครื่องบินของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์กลางอากาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 67 ราย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ระดับความสูงของเครื่องบินทั้งสองลำเป็นประเด็นสำคัญที่ NTSB กำลังดำเนินการตรวจสอบว่า หายนะทางการบินพลเรือนครั้งเลวร้ายที่สุดของสหรัฐฯ ในรอบหลายทศวรรษเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยได้อย่างไร

NTSB ระบุว่า ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเฮลิคอปเตอร์ Sikorsky H-60 Black Hawk บินอยู่ที่ระดับความสูงราว 300 ฟุตในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งสูงกว่าการประเมินเบื้องต้นจากข้อมูลเรดาร์อยู่ราว 100 ฟุต

NTSB อธิบายว่า การประเมินครั้งใหม่นี้พิจารณาจากเซนเซอร์เรดาร์หลายตัวและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่แสดงผลบนหน้าจอของเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศในหอควบคุม

NTSB ระบุว่า จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมจากเฮลิคอปเตอร์ Black Hawk ซึ่งคาดว่าจะได้รับหลังจากเก็บกู้เครื่องขึ้นมาจากแม่น้ำได้ภายในสัปดาห์นี้

นอกจากระดับความสูงแล้ว เจ้าหน้าที่สอบสวนยังได้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่หอควบคุมการจราจรทางอากาศในคืนวันเกิดเหตุ และกำลังตรวจสอบบันทึกการซ่อมบำรุงของเครื่องบินทั้งสองลำด้วย

ทั้งนี้ เฮลิคอปเตอร์ในจุดที่เกิดเหตุนั้นถูกจำกัดการบินที่ระดับความสูงไม่เกิน 200 ฟุต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สอบสวนได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เครื่องบันทึกข้อมูลการบินจากเครื่องบินของอเมริกัน แอร์ไลน์ระบุว่าการชนกันเกิดขึ้นที่ระดับความสูง 325 ฟุต โดยมีความคลาดเคลื่อนบวกหรือลบไม่เกิน 25 ฟุต