พบโรคปริศนาคร่าชีวิตประชาชนกว่า 50 รายในคองโก

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 26, 2025 09:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยในวันอังคาร (25 ก.พ.) ว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 รายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการระบาดของโรคปริศนา 2 กลุ่มที่อยู่ระหว่างการสอบสวนในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า WHO ระบุในแถลงการณ์ว่า จนถึงวันที่ 16 ก.พ. มีรายงานผู้ป่วย 431 ราย และผู้เสียชีวิต 53 ราย จากโรคระบาดที่เกิดขึ้นแยกกัน 2 กลุ่มในหมู่บ้านห่างไกลซึ่งอยู่ในเขตสุขภาพ (health zone) ที่แตกต่างกันของจังหวัดเอกวาเตอร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับภูมิภาคยุโรปตะวันตก

"การระบาดครั้งนี้ ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน ถือเป็นภัยคุกคามด้านสาธารณสุขที่ร้ายแรง ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด" ทาริก จาซาเรวิช โฆษกของ WHO กล่าวในการแถลงข่าวในวันอังคาร พร้อมทั้งเสริมว่า หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบมีระบบเฝ้าระวังโรคและโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขที่จำกัด

การระบาดกลุ่มใหญ่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ในหมู่บ้านโบมาเต เขตสุขภาพบาซานกูซูของจังหวัดเอกวาเตอร์ โดยมีผู้ป่วย 419 ราย และมีผู้เสียชีวิต 45 ราย โดยเกือบครึ่งหนึ่งเสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมงหลังเริ่มมีอาการ ซึ่งรวมถึงมีไข้ ปวดตามร่างกาย อาเจียน และท้องเสีย

WHO ระบุว่า ตัวอย่างจากผู้ป่วย 13 รายไม่พบการติดเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola) และมาร์บวร์ก (Marburg) ขณะที่ทีมแพทย์กำลังตรวจสอบสาเหตุที่เป็นไปได้อื่น ๆ ในพื้นที่ เช่น มาลาเรีย อาหารเป็นพิษ ไข้ไทฟอยด์ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือไข้เลือดออกจากไวรัสชนิดอื่น

ส่วนการระบาดอีกกลุ่มหนึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น มีผู้เสียชีวิต 8 ราย จากผู้ป่วย 12 ราย ในหมู่บ้านโบโลโก เขตสุขภาพโบลอมบาเมื่อวันที่ 21 ม.ค.

จากการสอบสวนพบว่า การระบาดนี้เริ่มจากเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีจำนวน 3 รายที่เสียชีวิตในหมู่บ้านเมื่อต้นเดือนม.ค. โดยอาการของเด็กเหล่านั้นคือ มีไข้ อ่อนเพลีย และต่อมามีอาการเลือดออก เช่น เลือดกำเดาไหลและอาเจียนเป็นเลือด ทั้งนี้ มีรายงานว่าเด็กเหล่านี้กินค้างคาวที่ตายแล้วก่อนล้มป่วย

ส่วนผู้ป่วยรายอื่นที่พบในหมู่บ้านเดียวกันและหมู่บ้านดอนโดที่อยู่ใกล้เคียงนั้น ทั้งหมดมีอาการคล้ายกัน และเมื่อปลายเดือนม.ค. ตัวอย่างที่เก็บจากผู้ป่วยทั้งหมดไม่พบเชื้อไวรัสอีโบลาและมาร์บวร์กแต่อย่างใด

WHO ระบุว่ายังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงระหว่างการระบาดทั้งสองกลุ่ม

"เรากำลังตรวจสอบว่าเกิดจากการติดเชื้ออื่น หรือเป็นสารพิษบางชนิดหรือไม่ เราต้องพิจารณาว่าสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง และ WHO จะสามารถให้การสนับสนุนในจุดใด" จาซาเรวิชกล่าว พร้อมระบุว่าเคยมีเหตุการณ์ระบาดคล้ายลักษณะนี้เกิดขึ้นมาก่อนในอดีต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ