ข้อมูลเบื้องต้นจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ที่เปิดเผยในวันนี้ (26 ก.พ.) ระบุว่า อัตราการเกิดเพิ่มขึ้นในปี 2567 เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดยมีปัจจัยมาจากการแต่งงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลระบุว่า อัตราการเจริญพันธุ์ของเกาหลีใต้อยู่ที่ 0.75 ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 0.72 ในปี 2566 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในโลกในขณะนั้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเปลี่ยนแปลงนี้นับเป็นสัญญาณบวกครั้งสำคัญ หลังจากที่เกาหลีใต้ประสบปัญหาอัตราการเกิดต่ำมาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม OECD ที่มีอัตราการเกิดต่ำกว่า 1 มาตั้งแต่ปี 2561
"มีการเปลี่ยนแปลงค่านิยมทางสังคม โดยผู้คนมีมุมมองเชิงบวกต่อการแต่งงานและการมีบุตรมากขึ้น" พัค ฮยอนจอง เจ้าหน้าที่สำนักงานสถิติฯ กล่าวในการแถลงข่าว พร้อมเสริมว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในช่วงอายุ 30 ต้น ๆ และการแต่งงานที่ถูกเลื่อนมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน
ตัวเลขการแต่งงานในปี 2567 พุ่งสูงขึ้นถึง 14.9% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2513 โดยในสังคมเกาหลีใต้ การแต่งงานมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอัตราการเกิด เนื่องจากการแต่งงานมักถูกมองว่าเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการมีบุตร
แม้จะเห็นสัญญาณบวก แต่เกาหลีใต้ยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านประชากรอย่างหนัก โดยในปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตมากกว่าผู้เกิดใหม่ถึง 120,000 คน ซึ่งเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันที่ประชากรลดลงตามธรรมชาติ
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการแต่งงานและการมีบุตร หลังจากที่อดีตประธานาธิบดียุน ซอกยอล ประกาศให้เรื่องนี้เป็น "วิกฤตประชากรแห่งชาติ" และมีแผนจัดตั้งกระทรวงใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะ
ทางสำนักงานสถิติฯ คาดการณ์ว่า หากแนวโน้มการลดลงของประชากรยังคงดำเนินต่อไป ประชากรเกาหลีใต้อาจลดลงจากจุดสูงสุดที่ 51.83 ล้านคนในปี 2563 เหลือเพียง 36.22 ล้านคนภายในปี 2615