บริษัทจีนแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมตะวันออกของมณฑลซานตงได้ถอนคำสั่งที่ออกในเดือนก.พ. ซึ่งกำหนดให้พนักงานที่เป็นโสดต้องแต่งงานภายในเดือนก.ย.ปีนี้ หลังจากทางการท้องถิ่นระบุว่าคำสั่งดังกล่าวของบริษัทขัดต่อกฎหมายแรงงานของจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวเน็ตและเจ้าหน้าที่รัฐ ในขณะที่จีนกำลังพยายามหาวิธีจูงใจให้คู่รักหนุ่มสาวแต่งงานและมีลูก เพื่อแก้ปัญหาจำนวนประชากรที่ลดลง
บริษัท ซานตง ซุนเถียน เคมิคอล กรุ๊ป (Shandong Shuntian Chemical Group) ประกาศแจ้งพนักงาน 1,200 คนว่า พนักงานโสดที่มีอายุระหว่าง 28-58 ปี รวมถึงผู้ที่เคยหย่าร้าง จะต้องแต่งงานและสร้างครอบครัวภายในวันที่ 30 ก.ย. 2568 หากพนักงานไม่ปฏิบัติตาม บริษัทจะยกเลิกสัญญาจ้างงาน
สื่อของรัฐอย่างโกลบอลไทมส์ รายงานว่า ประกาศของบริษัทฯ ระบุว่า คำสั่งดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมจิตวิญญาณและค่านิยมทางวัฒนธรรมของความขยันหมั่นเพียร ความเมตตา ความซื่อสัตย์ ความกตัญญู และความถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ประกาศดังกล่าวขัดต่อกฎหมายแรงงานของจีน ทำให้บริษัทฯ ต้องถอนคำสั่งนี้ออกไป
บริษัทฯ ชี้แจงว่า เจตนาของคำสั่งนี้คือการกระตุ้นให้พนักงานโสดที่มีอายุมากขึ้นให้ความสำคัญกับการตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิต และกระตุ้นให้พวกเขาแต่งงานและสร้างครอบครัว
ทั้งนี้ การแต่งงานในจีนลดลง 20% ในปี 2567 ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
จีนมีประชากร 1.4 พันล้านคน ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก และประชากรกำลังเข้าสู่ภาวะชราอย่างรวดเร็ว ส่วนอัตราการเกิดลดลงต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสิบปี เนื่องจากนโยบายลูกคนเดียวในช่วงปี 2523-2558 และการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว
ในอีกสิบปีข้างหน้า คาดว่าประชากรจีนราว 300 ล้านคน ซึ่งเกือบเท่ากับประชากรของสหรัฐอเมริกาทั้งประเทศ จะเข้าสู่วัยเกษียณ
ในปี 2567 รัฐบาลจีนได้พยายามแก้ปัญหานี้ โดยสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศสอนหลักสูตร "การศึกษาด้านความรัก" เพื่อส่งเสริมทัศนคติเชิงบวกต่อการแต่งงาน ความรัก การมีบุตร และครอบครัว